ค้นหาตัวตน ตอนที่ 1
ไม่รู้ว่าจะมีใครเป็นเหมือนกันไหม??
ที่วันๆ เหมือนจะมีความสุขกับชีวิตดี
กินดี อยู่ดี เที่ยวดี มีความสุข
แต่เหมือนคนเราก็ไม่เคยมีความสุขกับสิ่งที่มี
เนยเป็นคนนึงที่เป็นแบบนี้
เนยอยากได้ อยากมี อยากเป็น
ไอ้ความอยากได้อยากมีเนี่ย คือ....อยากรวย!!!
สถานะที่เป็นอยู่ก็ไม่ใช่ว่าจน
แต่...อยากมีมากกว่านี้
อยากกล้าใช้เงินให้มากกว่านี้
เวลาอยากได้อะไร จะได้ไม่คิดมาก
ไม่เสียดาย และถ้ามันอิ่มแล้ว
เราจะอยากแบ่งให้คนอื่นๆ
เหมือนที่พวกบรรดาเศรษฐีเค้าทำกัน
ทำการกุศล ทำบุญ ทำอะไรก็ได้ที่เป็นประโยชน์
ตอบแทนกลับสังคม
ตอบแทนพ่อแม่ได้
แต่ก็นั่นแหละ ทุกอย่างจะยังเกิดขึ้นไม่ได้เต็มที่
ถ้าเรายังมีไม่พอ!!
แล้วจะทำยังไงล่ะ??
ถ้าอยู่เฉยๆ เงินมันคงไม่วิ่งเข้าหาแน่ๆ
และถ้าจะมัวสวยๆ รอเจ้าชายวิ่งมา
ก็คงมีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่ทำ
ประเด็นคือ...มันไม่รู้เว่ย
ว่าทำอะไรถึงจะรวย
คือนึกออกป่ะ ว่าเห็นเจ้าของกิจการ
เจ้าของธุรกิจนู่นนี่ เค้ารวย
แต่ถามว่าเรามีต้นทุนเท่าเค้ามั้ย เราก็ไม่มี!!!
ไอ้ต้นทุนที่ว่าเนี่ย นอกจากเรื่องเงินนะ
ก็เรื่องความกล้า ความรู้ และอีกหลายๆ อย่าง
คือสรุป ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากทำอะไร
ที่ไม่ใช่ปล้นธนาคารแบบในหนังอ่ะ
และด้วยความฟุ้งซ่าน
มันก็ก่อตัวเป็นต้นกำเนิดของ
หนอนหนังสือ ตัวใหม่
วิ่งเข้า วิ่งออก SEED
, B2S , นายอินทร์
เพื่อที่จะหา วิธีทางรวย
สมาคมคาราวานหนอนหนังสือ
http://www.volunteerspirit.org
เอาวะ!! คิดเองไม่ได้
ก็คิดว่า เลียนแบบ เค้าเอาก็แล้วกัน!!!
ต้องบอกก่อนนะว่า
ตอนที่กำลังนั่งพิมพ์อยู่เนี่ย
ยังไม่ได้รวยนะโว้ยยยยยย
แต่มันเหมือนเป็น บันทึก ระหว่างทาง
ในขณะที่เรากำลังคลำหาลู่ทางอยู่
ไม่มีความรู้อะไรซักอย่าง
ไม่เคยลองทำธุรกิจอะไรเลยสักอย่าง
และก่อนหน้านี้
ก็ไม่เคยจะอ่านอะไรสักอย่างเหมือนกัน
คิดในแง่ดีว่า อย่างน้อย
มันก็ทำให้ค่าเฉลี่ยคนไทยที่อ่านหนังสือ
แค่วันละ 8 บรรทัด
เพิ่มขึ้นบ้างล่ะวะ!!
ด้วยความที่จะทำอะไรก็ไม่มีทุน
เลยไปหยิบเล่มนี้มาอ่าน เป็นเล่มแรกเลย
เป็นตัวจุดประกายให้ความอยากรวยพุ่งทะยาน
ก็ดูจั่วหัวดิ!!
ของสะสมพารวย
ถึงเศรษฐกิจไม่ดี
ของในบ้านอาจขายได้เป็นแสนเป็นล้าน!!
โอ้วโหว เล่นเอากรูตาโตเป็นไข่ห่าน
ไม่มีทุน ไม่มีความรู้
ก็เริ่มจากเอาของในบ้านมาขายนี่แหละวะ!!
(แต่เดี่ยวก่อนนะ ของในบ้านมีอะไรเป็นของกรูบ้าง
ฮ่าๆๆๆๆๆ)
มา...เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดเลย
ถึงเหตุการณ์จริงและความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ระหว่างทางที่ค้นหาตัวตนอยู่นี้
หนังสือมันพูดถึง "ของสะสม"
ซึ่งถ้าเอาจริงๆ นะ เนยสะสมอะไรรู้ป่ะ
แม่ง...สะสมตัวการ์ตูน ที่เป็นโมเดลอ่ะ
การ์ตูนน่ารักๆ โมเดลรถ สะสมเหล้าขวดเล็ก
คือมันไม่ใช่แบบที่จะพารวยอ่ะ
ของสะสมพารวยมันต้องแบบ....
เหรียญ ธนบัตร สแตมป์ พระเครื่อง อะไรแบบนี้
แต่เดี๋ยวนะ เออๆ เหมือนจะมีว่ะ
เห็นของพ่อแว้บๆ ไอ้พวกเหรียญเก่า ธนบัตรเก่า
และที่มีชัวร์ๆ เลยคือ พระเครื่อง!!
พ่อกุมีเต็มตู้อ่ะ กรี้ดดดดด
อย่างน้อยกุอาจจะคุยกะพ่อรู้เรื่อง
ก่อนจะไปลึกกว่านี้
จะบอก ข้อดี ของ
ของสะสมก่อน
ว่ามันน่าสนใจยังไง
- เป็นของที่ยิ่งสะสมนาน มูลค่าแม่งยิ่งเพิ่ม
- ถ้าเก่าแล้วยังอยู่ในสภาพเดิมด้วยล่ะก็....ราคาเพิ่ม
หลายเท่าตัว!!
- ถ้าเป็นของที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
มูลค่าก็ยิ่ง มาก
- ของสะสมมีแต่จะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่
ราคาไม่มีวันตก
- เป็นการลงทุนที่มีผลตอบแทนคุ้มค่า หากเรา
จริงจัง
แต่มาดู ข้อเสีย ประกอบด้วยมั้ย
- มันไม่ได้ซื้อขายกับแบบง่ายๆ เว่ย สภาพคล่อง
แม่งไม่มีเลย
- ไม่มีราคาที่แน่นอนอีก อีคนขายจะตั้งเท่าไหร่ก็ได้
ที่พอใจ
- คนซื้อแม่งต้องดูเป็น ต้องสังเกต พิจารณาอย่าง
ละเอียดว่าแท้หรือไม่
(คืออ่านถึงตรงนี้ กูคนแรกอ่ะ ที่จะโดนเอาของ
ปลอมมากหลอก)
ทีนี้เรามาดูในหนังสือ
มันบอกข้อดี ข้อเสีย ของๆ สะสมแต่ละอย่าง
เลยดีกว่า
1. มันบอกให้สะสม ''เหรียญทองคำ"
เพราะราคาเหรียญทองคำจะเพิ่มขึ้น
ตามมูลค่าทองคำ
และความต้องการของนักสะสม
(แต่เจ้าประคุณเอ๊ย....แค่ทองคำ
1 บาท
กุยังไม่มีปัญญาซื้อเลย)
2. พระเครื่อง
แต่ต้องศึกษาอย่างหนัก
ต้องส่องพระ
ต้องดูเป็น
ต้องมีประสบการณ์ยาวนาน
เพราะมีของเก๊ ของปลอมเพียบ
(โอ่ย...คงไม่ทันการณ์
กว่าจะชำนาญ กุคงแก่อ่ะ)
3. สแตมป์
(โอ้ย อันนี้กุมีค่ะ
สแตมป์ตอนเขียนจดหมาย
ตอนเด็กๆ )
แต่เดี่ยวก่อน
เค้าบอกว่าถ้าหวังกำไร
ต้องสะสมสแตมป์ที่ยังไม่ได้ใช้งาน
(จบกันความฝันกุ)
และถ้าหวังรวยกับสแตมป์ท่าจะยาก
ก็ดูเอาละกัน
ว่าสแตมป์มันมีราคากี่บาท
หนังสือเล่มนี้ทำให้เราไปรื้อหา
อัลบั้มสะสมสแตมป์
อัลบั้มของกุ
4. ธนบัตร
ต้องยังไม่ได้ใช้ สภาพดี
สีสันชัดเจน
(กุรีบวิ่งไปดูในกรุธนบัตรของเก่าปู่เลยค่ะ
แทบจะเป็นลม
ที่กุมี มันเปื่อยจนยุ่ย
ยับยู่ยี่ทุกใบ
เลยคิดว่าเอาเก็บไว้เถอะ
เก็บไว้ให้ลูกหลานดูธนบัตรเก่าๆ
อย่าหวังเอาออกมาขายเลย
ท่าจะขายไม่ออก
แต่มันก็ทำให้เรา
ได้กลับไปปัดฝุ่น
กับซื้อสมุดสะสมธนบัตร
เก็บแบบเป็นที่เป็นทางอยู่นะ)
อัลบั้มของกุ
5. เหรียญกษาปณ์
(โอ้ย..อันนี้อยากเล่าสู่กันฟังมาก)
เค้าแนะนำว่า
ถ้าอยากเริ่มสะสม
ให้เราเริ่มจากเหรียญที่ใช้จ่าย
กันทั่วๆ
ไปในปัจจุบันก่อนเนี่ยแหละ
(แม่ะ ฟังดูเหมือนง่าย)
เหรียญมันจะระบุ ปี พ.ศ.
และเหรียญ
ที่ผลิตในแต่ละปี
มันจะมีจำนวนไม่เท่ากัน
ถ้าผลิตน้อย
ก็หายาก ก็มีราคามากกว่า
ราคาหน้าเหรียญ
เค้าบอกให้เริ่มต้นจาก "เหรียญ 10 บาท
พ.ศ. 2533"
เค้ารับซื้อกันในราคาเหรียญละ 1 แสนบาท
เพราะมันผลิตแค่ 100 เหรียญ
ยังมี ''เหรียญ 1 บาท พ.ศ. 2525 แต่ต้องเป็นแบบพระเศียรเล็ก"
"เหรียญ 50 สตางค์
พ.ศ. 2493 บลอคตัวหนังสือบาง"
"เหรียญ 50 สตางค์
พ.ศ. 2530"
"เหรียญ 25 สตางค์
พ.ศ. 2500"
"เหรียญ 5 บาท พ.ศ. 2525"
(หลังจากบรรทัดนี้
ทายซิอะไรเกิดขึ้น
มาเลยค่ะ
กระปุกออมสินของทุกคนในบ้าน
ตั้งแต่พ่อ แม่ น้อง
ของกลางบ้าน
เอามาเทๆ ละนั่งดูทุกเหรียญ
จนตาลาย
ดูแล้วดูอีกแต่ก็ไม่เจอ
โถ่ๆๆๆๆๆๆ ความฝันกูหนอ)
อัลบั้มของกุ
6. จักรยาน จักรยานยนต์เก่า
และรถยนต์คลาสสิก
(ที่บ้านไม่มีเลยอ่ะ รถเก่าๆ
เอาไปเทิร์นเบิ้ดดด)
7. ของเล่นสังกะสี ของเล่นไขลาน
(อันนี้ที่บ้านก็ไม่มีอีก
ตอนเกิดก็เกิดไม่ทัน)
8. ตะเกียงโบราณ นาฬิกาเก่า
เครื่องใช้ ของใช้ในบ้าน
(คือไม่มีเลยทั้งทีวีเก่า
วิทยุเก่า เตารีดเหล็ก กล้องโบราณ
เครื่องพิมพ์ดีด
โอ่งยังไม่มีอ่ะ
หนังสือเก่าๆ ก็ปลวกแดก มอดแดกหมดละ
คือวิ่งทั่วทั้งบ้าน ก็เพิ่งรู้ว่า
บ้านกุแม่งไม่มีของเก่าเก็บเลยจริงๆ)
หนังสือเล่มนี้บอกละเอียดมาก ในแต่ละอย่าง
ว่าดูยังไง หาจากไหน มีอะไรบ้างที่ต้องรู้
คือละเอียดจริงๆ ภาพสีหมด
ให้เห็นตัวอย่างชัดๆ เลย
แนะนำสำหรับใครที่อยากได้รายละเอียด
ในการเริ่มต้นสะสมของประเภทต่างๆ นะคะ เล่มนี้ดี
สรุปนะ
- ของสะสมแต่ละอย่าง
กูแม่ง ไม่มีความรู้ ห่าอะไรเลย
ไม่ว่าจะเป็นเบญจรงค์ เครื่องปั้นดินเผา
เครื่องสังคโลก เหรียญ
ธนบัตร สแตมป์
เครื่องใช้เก่าๆ ทีวี วิทยุ พระเครื่อง
รถเก่า จักรยานเก่า แผ่นเสียง ฯลฯ
- ไม่ใช่แค่ไม่มีความรู้นะ ที่บ้านกูก็ไม่มีด้วย!!!
มรดกตกทอดจากคุณปู่คุณตากุ ไม่เหลือเลย
ไม่ได้เก็บสักอย่าง
ทั้งๆ ที่ตอนเด็กๆ ก็พอจะเห็นอยู่บ้างนะ
เยอะเหมือนกัน
แต่ตอนนี้น่ะหรอ เปลี่ยนมือไปอยู่ที่ใครละก็ไม่รู้
- มันต้องเป็นคนที่รักของสะสมจริงๆ หลงไหล คลั่งไคล้
และมีความรู้ในของนั้นๆ ทั้งราคา ประวัติของมัน
ว่าหายากขนาดไหน
มีคุณค่ายังไง
ราคาตลาดเท่าไหร่ หาซื้อได้ที่ไหน ปล่อยได้ที่ไหน
แม่ง ไม่ใช่กุ!!!
- ไม่มีทุน อย่าเพิ่งทำ
เงินจะจม
คือไม่มีเงินไปซื้อมาเก็บไว้เก็งกำไร มันแพงงงงงง
- สถานที่ไม่เอื้ออำนวยด้วย คืออยู่พิษณุโลกไง
ไม่ได้อยู่กรุงเทพ มีตลาดนัดของเก่าเพียบ
ให้ไปเดินเลือก ให้ไปหาของให้ลูกค้า
-
สรุป
ความฝันจะรวยด้วยของเก่า กุพับใส่กรุเลยค่ะ
รอพ่อสอนดูพระเครื่องอย่างเดียว
หรือไม่ก็ช่วยพ่อปล่อยละขอค่าคอม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เสียเวลามาอ่าน
ความคิดของเด็กบ้าๆ คนนึงที่ฝันอยากรวยนะคะ
นี่แค่เพียงเริ่มต้น!!!
เราจะหาจนกว่าจะเจอ เราสัญญา
19/5/60
เล่มต่อไป...จะรวยทางไหนดี???
