ตื่นเต้นจังเลย
เพราะนี่เป็นการมาเทียวสาธารณรัฐเช็กครั้งแรกของเนยค่ะ
ได้ยินมานานแล้วสำหรับความสวยงามของประเทศนี้
วันนี้จะได้มาเห็นด้วยตาตัวเองสักที
เมืองที่เนยมาในวันนี้คือ...............
เมืองมรดกโลกก "เชสกี้ ครุมลอฟ"
Cesky Krumlov
สวยแค่ไหน ตามมาดูเลยค่า
เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมียเลยนะคะ
ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก
ให้เป็นเมืองมรดกโลกใน ค.ศ. 1992
(World Heritage)
เมืองนี้ตั้งอยูริมสองฝั่งแม่น้ำวัลตาวา
ความโดดเด่นของเมืองนี้อยู่ตรงที่่
มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 ปี
ได้ขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานทีสำคัญแห่งหนึ่งของโลก
คือบรรยากาศสวยมาก อากาศดีมาก
สวยสมคำรำลือจริงๆ ค่ะ
สัมผัสได้ถึงความเก่าแก่ ความโบราณ
ดูขลังและมีสเหน่มากค่ะ
เราจะไปชมปราสาทครุมลอฟ
สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1250
สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1250
ถือเป็นปราสาทที่่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ
รองลงมาจากปราสาทปร๊าก ที่่มีอายุ 700 ปี
เดินมาฝังตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสสิค
"Senete Square"
และโบสถ์เก่าแก่กลางเมือง
ย่านนี้คนพลุกพล่านมากค่ะ
ถ่ายมุมไหนก็ติดคน
ต้องมาหลบมุมถ่ายคนเดียวแบบนี้
ถึงจะได้รูปเดี่่ยว ฮ่าๆๆๆๆ
มีร้านค้า ร้านขาายของฝาก
18.00 ตรง
จะมีผู้คนมากมายมารอดูนาฬิกากุ๊กกู
มันจะออกมาเริงระบำแค่ 1-2 นาทีเท่านั้นค่ะ
ทุกคนใจจดใจจ่อ
ไอ้เราก็รอดูเหมือนกัน อุตส่าห์มาถึงนี่แล้วเนอะ
บรรยากาศจริงเป็นยังไง
ดูคลิปเลยค่ะ
แวะซื้อชอคโกแลตติดไม้ติดมือกลับ
ชอคโกแลตแท้ เข้มข้นมาก
ไวท์ชอคโกแลตก็อร่อย หอมมากกก
ที่นี่เค้าขายกันเป็นขีดค่ะ
แล้วก็เดินทางไป กรุงปร๊าก
เมืองหลวงของของสาธารณรัฐเช็ก
เพื่อไปกินอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารนี้ค่ะ
เป็ดสไตล์โบฮีเมียน หน้าตาประมาณนี้
เป็นอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของที่นี่เลยค่ะ
เป็นเป็ดอบ ราดด้วยน้ำซอสชุ่่มฉ่ำ
เครื่องเคียงคือขนมปัง แก้เลี่ยน
ตบท้ายด้วยขนมหวานค่ะ
อันนี้พายแอปเปิ้ล โรยด้วยไอซ์ซิ่ง
กินอิ่มแล้วก็ได้เวลากลับโรงแรมค่่ะ
คืนนี้นอนในกรุงปร๊าก
เดินเมื่อยมาทั้งวัน
วันนี้ขอผ่อนคลายนอนแช่น้ำอุ่นละกันเนอะ
พรุ่่งนี้จะไปลุยที่่ไหนต่อรอติดตามน้า
................................................
วันที่่สาม
วันนี้เราจะเที่่ยวกรุงปร้ากกันค่ะ
ที่่แรกที่เราจะไปคือ ปราสาทแห่งปร้าก
เป็นปราสาทที่่สร้างอยู่บนเนินเขาตั้งแต่่สมัย
คริสต์ศตวรรษที่่ 9
บริเวณลานกว้างๆ ก็จะมีนักแสดง นักดนตรีเปิดหมวก
เป็นเจ้าหญิง (มโน) กับเค้าสักที
ชม มหาวิหารเซนต์วิตุส
St.Vitus Cathedral
เป็นมหาวิหารทีสง่างามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค
เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ทีสุดในกรุงปร๊าก
พระเจ้าชาร์ลที่ 4 ทรงโปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344
ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต
ชื่นชมกับมหาวิหารแล้ว
ก็ไปต่อกันด้วยเดินชม ย่านช่างทองโบราณ
Golden Lane
เป็นหมู่บ้านที่สมัยก่อนเป็นช่างทองทั้งหมู่บ้านเลยค่ะ
เดินไปเดินมาก็ไปสะดุดกับรูปปั้นนี้
รูปปั้น กระจวยทองคำ
เค้าบอกว่าให้จับถ้าอยากมีลูกนะคะ
สำหรับคนโสดก็จะได้เจอเนื้อคู่ค่ะ
เนยว่าโดนไกด์หลอกมากกว่าค่ะ
แต่ก็อย่างที่เห็นนะคะ ตามภาพ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ที่ต่อไปเราก็ไปเดินเล่นชิวๆ บน สะพานชาร์ล
Charles Bridge
เป็นสะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา
สไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศษวรรษที่ 14
ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญ
ที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพาน กว่า 30 องค์
ค่ำแล้วได้เวลาดินเนอร์
วันนี้ได้กินอาหารแปลกๆ อีกแล้วค่า
ซีซาร์สลัด
ปลาอะไรไม่รู้จำไม่ได้
คือเนยไม่ชอบกินปลานึ่ง จานนี้เลยยกให้น้องชายไปเต็มๆ
เผื่อท้องไว้กินโยเกิร์ต
คืนนี้กินนิดเดียว ต้องรีบนอนละ เดี๋ยวหิว
คืนนี้ลากันไปก่อน
พรุ่งนี้ไปเที่ยวเยอรมันต่อ
จะไปที่ไหนบ้าง รอติดตามน้า