วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561

บ้านนอกเข้ากรุง...ตอน...ตะลุยแดกตลาดนัดรถไฟ


เป็นคนบ้านนอก
ที่นานๆ จะได้เข้ากรุงสักที
ถ้าเอาเนยไปปล่อยกรุงเทพ
คงจะร้องไห้ อยากกลับบ้าน

ไม่ได้กลัวอะไรนะ แค่กลัวหลง
ขับรถผิดเลนส์นิดเดียว ชีวิตเปลี่ยน
ไปยาว กว่าจะได้ยูเทิร์นกลับ
ขนาดดู GPS ยังงงๆ

แต่พอดีมีธุระ
เลยจำเป็นต้องไป กทม.
และก็ไม่รู้จะไปเที่ยวไหน
ในหัวมีแต่ของกิน
เลยตกลงกันว่า เราจะไป 
"ตลาดนัดรถไฟ"


แต่ตลาดมันเปิดตอนเย็นใช่ป่ะ
เราเลยแวะหาไรกินแถวๆ ที่เราไปทำธุระกันก่อน

เรากินมื้อเที่ยงกันที่ร้าน
    "Soul Cafe"    

คนนึงสั่งอาหารญี่ปุ่น อีกคนสั่งอาหารฝรั่ง!!



จานใหญ่มาก





จานนี้ Topping ด้วยไข่ Onsen

เครื่องดื่ม ชา กาแฟ มีหมด
อาหารอร่อยด้วยค่ะ





กินเสร็จ เราจะไปต่อกันที่
   "ตลาดนัดจตุจักร"   

ใช่ค่ะ เราจะเดินไป
เพราะคิดว่าไม่ไกล แต่เราคิดผิดค่ะ
เพราะมันไกลมากกก!!!
ดูใน GPS ใกล้นิดเดียว!!

เดินไม่รู้ขึ้นกี่สะพานลอย 
ไม่ไหวค่ะ
ขอเปลี่ยนวิธีเดินทางด่วนๆ



ไปต่อกันที่ MRT ค่ะ


อันนี้เวิคหน่อย แปปเดียวถึง

ของขายเยอะมาก
มีทุกอย่างตั้งแต่ เสื้อผ้า รองเท้า มือ 2
เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน
ของกิน ของเล่น โมเดล
เครื่องใช้ต่างๆ ของสะสม ของโบราณ ฯลฯ


เดินจนเพลิน ลืมถ่ายรูป 
เออ เอากะกูสิ!! 

อากาศมันก็จะร้อนๆ หน่อย
กินไอติมโบราณ ค่อยยังชั่ว
แถวบ้านขายไม้ละ 1 บาท
ที่นี่ขายไม้ละ 5 บาท!!


เดินเสร็จ
ภารกิจต่อไปคือหาที่พัก!!

ขอแบบใกล้ๆ MRT
เสิร์ซในอากู๋ ได้มาที่นี่
   "CMYK"   


ในราคาคืนละ 1,000 บาท พร้อมอาหารเช้า



อยู่ใกล้ MRT แค่ 3 นาทีเดิน










ใกล้ๆ มี 7-11 รอดแล้วกู





มีบริการนวดถึงห้องด้วยนะคะ
โทรเรียกขึ้นมาได้เลย
สนนราคาก็ตามนี้ ถือว่าไม่แพง







บริเวณ LOBBY



ชั้นล่างของโรงแรมมีร้านนวด ร้านอาหาร
ลองสั่งกินกรุบกริบๆ สักหน่อย

ขอเริ่มจากติ่มซำ
เข่งละ 29 บาทเอ๊ง
ฟินเฟร่อ








หมูสับไข่เค็ม



ขนมจีบหมู



ขนมจีบปู



ขนมจีบกุ้ง


อีขนมจีบนี่ เจ้าชู้จริงๆ
สรุปจะจีบใครกันแน่!!

เรียกน้ำย่อยกันไปละ
ขอจานหนัก แนะนำเลย จานนี้อร่อยมาก
ข้าวผัดกุ้ง




สเต๊กก็มี




อยู่ท้องละ พร้อมลุยตลาดนัดรถไฟ



แต่ก่อนจะไปเดินช้อปปิ้ง
กองทัพมันต้องเดินด้วยท้อง!!
ของกินต้องมาก่อน

เฮ้ย...เพิ่งกินมานะ
ไม่เป็นไร กินได้อีก!!


อ่านรีวิวมา
เค้าบอกว่า ไข่ปลาหมึก อร่อย
ต้องจัด!!

เต็มปากเต็มคำ
ถ้วยละ 60 บาท

เดินๆ อยู่ หอมจนต้องหยุด
นั่นก็คือ ไส้ย่าง ค่ะ

ไม้ละ 10 บาท




อยากจะบอกว่า ไส้นุ่มมาก 
หมักอร่อย และน้ำจิ้มเด็ดมาก
เผ็ดจนร้องขอชีวิต!!




แวะซื้อน้ำเถอะ
แก้วใหญ่มาก 


ถ้าถามว่าช่วงนี้ฮิตอะไร
ก็คงต้องนี่ค่ะ หมาล่า

มีให้เลือกหลายอย่างเลย
 ใครสายหอย ต้องลอง!!

กินแต่ของเผ็ดๆ ไปละ
ขอแบบไม่เผ็ดบ้าง

ผัดไทกะลา




กุ้งตัวโตๆ เน้นๆ
อร่อยจนไม่ต้องปรุง!!


ปิดท้ายด้วยของหวาน
มินิแพนเค้ก มีหลายไส้
ทั้งวานิลลา ชอคโกแลต ฯลฯ


จริงๆ มาที่นี่
ต้องห้ามพลาด  เล้งแซ่บ
แต่เห็นจำนวนคนที่ต่อคิวยาวเหยียดแล้ว

คาดว่ากว่าจะได้กินคงอีกนาน
วันนี้คงอด


นี่ยังไม่ได้กินอีกหลายอย่างมาก
ทั้งบะหมี่จอมพลัง ทุเรียนบุฟเฟ่ ฯลฯ
แต่ท้องจะแตกแล้ว

พาแฟนไปดูของเล่นดีกว่า
แต่เหมือนคนดี๊ด๊า จะเป็นกูเอง ฮ่าๆๆๆๆ



สรุป ทำไมทริปนี้มันเหมือนมีแต่ของกิน
อย่างเดียวเลยฟะ!!

สายนี้น่าจะใช่ทาง
มุเลยพาแดก ตัวไม่แตก แดกไม่หยุด!!

สำหรับทริปนี้ สั้นๆ แค่นี้แหละ
เพราะมาวันเดียว
เอาไว้ถ้าได้มา กทม. อีก
ไปเที่ยวไหน จะมารีวิวนะคร้า


วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2561

2 วัน 1 คืนที่สุพรรณบุรี


พาน้องแมวมาส่งที่สุพรรณบุรี
เลยได้โอกาสแวะเที่ยว 2 วัน 1 คืนที่นี่

และด้วยความที่ไม่เคยมา
ไม่เคยดูรีวิวใดๆ ก็เลยเที่ยวแบบ
ให้ "อากู๋" พาเที่ยว

มาดูกันว่า จะไปที่ไหนได้บ้าง
ในเวลาแค่ 2 วัน

เริ่มจากที่แรกเลยค่า
    "บึงฉวาก"    

เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้โลกใต้น้ำ
มีเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 2,700 ไร่!!

จริงๆ มีทั้งสวนสัตว์บกและสัตว์น้ำ
มีที่พัก ร้านอาหาร โรงแรม
ริมบึง บรรยากาศดีสุดๆ

แต่ในส่วนของวันนี้
เนยจะมาชมอุโมงค์ใต้น้ำกันค่ะ
เสียค่าเข้า คนละ 30 บาท






ข้างในสามารถดูพวกปลาทะเลตัวเล็กๆ
ปลาการ์ตูน ปลาน้ำจืด ตามตู้กระจกเล็กๆ








แต่ถ้าอยากจะดู ไฮไลท์ ของที่นี่
ต้องเสียค่าเข้าอีก คนละ 150 บาทค่า





เพื่อเข้าชม "อุโมงค์ปลาฉลาม!!!"

ดูรูปนี้เผินๆ ไม่เหมือนคนกำลังให้อาหารปลา
แต่เหมือนปลากำลังรุมกินคนมากกว่า ฮ่าๆๆๆๆ

อันนี้ "โชว์ให้อาหารปลาน้ำจืด " นะคะ
ส่วนปลาฉลาม เดี๋ยวพาไปดูค่า




ปลาตัวใหญ่มากอ่ะ
เซลฟี่กับคนให้อาหารสักนิด






ต่อมาจะพามาดู " อุโมงค์  "
เป็นตู้ปลาที่ใหญ่และสูงที่สุดในเมืองไทย!!








แต่ที่พลาดไม่ได้ 
(เพราะเราเสียค่าเข้าคนละ 150 บาทแล้ว)

นั่นก็คือ ต้องมาชมอุโมงค์ปลาฉลาม





อุโมงค์ใหญ่มากกกกกกก
ในอุโมงค์นี้มีปลาฉลามหลายตัวมากๆ ค่ะ



แต่ละตัวว่ายเร็วมาก
ถ่ายรูปแทบไม่ทัน







เดินอยู่ที่บึงฉวากจนเมื่อย
ก็อยากจะเอนตัวลงนอน บนที่นอนนุ่มๆ 
แอร์เย็นๆ 

ก็ได้เวลาเสิร์ซหาที่พัก
ที่ใหม่ สวย ดูดี และไม่แพง!!!

โจทย์ค่อนข้างยาก
แต่เนยหาได้ ตามมาดูเล้ยยยย

อยากแนะนำที่นี่มากๆ
สภาพเหมือนเพิ่งเปิดใหม่
ตอนขับรถไป คิดว่ายังไม่เปิดให้บริการ





ชื่อก็เก๋ดีค่ะ        "บ้านใกล้เรือนเคียง"    
รีสอร์ท สุพรรณบุรี


บริเวณทางเข้า มีพนักงานเหมียวๆ ต้อนรับ








ดูเงียบๆ สงบๆ 
ไม่ค่อยมีคน มีความเป็นส่วนตัวมาก
และที่สำคัญที่นี่มีห้องพักแค่เพียง 12 ห้อง!!!














เดินเข้ามาเรื่อยๆ เพื่อมาดูห้องพัก
ว่าสวยตรงปกใน  Website หรือเปล่า

แล้วก็กรี้ดมาก!! ตรงค่ะ ตรงมาก
สวยกว่าใน Web อีก












ห้องพัก เป็นตัว U ล้อมรอบสระว่ายน้ำ
มีห้องพักฝั่งละ 6 ห้อง
แบ่งเป็นชั้นล่าง 3 ห้อง ชั้นที่สอง 3 ห้อง
ทั้งสองฝั่ง ห้องพักเหมือนกันค่ะ






บันได ทางขึ้นไปชั้นสอง






มาดูภายในห้องกันบ้าง






สะอาด เรียบร้อย มาก
มีทีวี แอร์ ตู้เย็น น้ำอุ่น 
โต๊ะกินข้าว โคมไฟ
แต่ไม่มีโต๊ะเครื่องแป้งและที่แขวนเสื้อผ้า
แอบหักคะแนนนิดนึง อิอิ


มองจากในห้องพัก ออกมาด้านนอก


พอแดดใกล้ลาลับ
ก็อย่ารอช้า ก่อนที่แสงจะหมด
ลุยสระว่ายน้ำกัน!!!





รีบถ่ายตอนยังไม่ลงน้ำ
เพราะถ้าลงน้ำแล้ว หน้าจะเละ ฮ่าๆๆๆ





ลงน้ำกันเถอะ







สระที่นี่เป็น "สระน้ำเกลือ " นะคะ
ดีไปอีกกกก




เล่นแล้ว ผมและผิว ไม่เสีย
เพราะไม่มีคลอรีนกัด
เข้าปากก็ได้ เค็มดี






เล่นกันจนค่ำ ทั้งสระมีกันอยู่สองคน

แต่ห้องข้างบนมีคนนะ
ตอนว่ายน้ำเล่น ก็ไม่ได้ดูเล้ย ฮ่าๆๆๆๆ





ลืมบอกเรื่องราคา
ห้องชั้นล่าง ติดสระว่ายน้ำ ราคา 1,000 บาท/คืน
ส่วนห้องชั้นบน 900 บาท/คืน
ต่างกันร้อยเดียว ติดสระสิคะ รออะไร!!

ราคานี้ ฟรีอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่านด้วยนะคะ
หน้าตาน่ากินใช่มั้ยล่ะ








Check Out 12.00 น. 
แล้วออกไปลุยต่อได้






ประทับใจที่นี่มากจริงๆ
วันหลังจะมาใหม่




ที่สุดท้ายที่เราจะไป คือ   "อุทยานมังกรสวรรค์"  

เป็นพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร

มีร้านขายของ สไตล์จีนๆ 














มีของฝาก ของที่ระลึก







มีชุดจีน ทั้งหญิงและชาย





เลือกซื้อ เลือกชมกันไป




เหมือนจะรู้ว่าจะมาโดยมิได้นัดหมาย
ใส่สีมงคลของชาวจีนมาเลยทั้งคู่




ใครอยากดูหนัง 4 มิติ
ที่นี่ก็มีให้ 





การตกแต่ง ถ่ายรูปออกมาแล้ว
เหมือนเราไปเที่ยวเมืองจีนจริงๆ
















ต่อมาจะพามาสักการะ
    "ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง"   






ก่อนอื่น ก็ต้องซื้อดอกไม้ธูปเทียนซะก่อน






สักการะเป็นจุดๆ ที่เค้าเขียนเลขไว้ตามลำดับ

















ตีระฆัง ให้ดังๆ
เราจะได้มีชื่อเสียงดังกังวาลเหมือนเสียงระฆัง






ต่อมาก็ได้เวลาไปชม ไฮไลท์ของที่นี่กันแล้ว
นั่นก็คือ     "หมู่บ้านมังกรสวรรค์"   ค่า




มังกรตัวใหญ่มาก
กล้องมือถือเกือบเก็บภาพไม่หมด




ที่นี่จะมีร้านอาหารด้วยนะคะ
สำหรับใครที่เดินเล่นจนเหนื่อย
ก็สามารถแวะทานข้าวกันได้ อร่อยดีค่า


สำหรับ  One Day Trip ของเนย
ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้

ถ้าคราวหน้าได้มีโอกาสไปสุพรรณบุรีอีก
จะเที่ยวที่ไหน รอติดตามรีวิวกันนะ

วันนี้เราสองคน ลาไปก่อน 
สวัสดีค่า







ผิวโกล์วดูมีออร่าด้วย SKII 3 ตัวนี้เลย

เชื่อว่าสาวไทยหลายๆ คน ต้องการมีผิวที่สวยสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ นั่นก็คือ ปราศจากสิว รอยดำ รอยแดงจากสิว สีผิวสม่ำเสมอ ผิวอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน ดู...