วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2563

มหัศจรรย์อินเดีย พาเที่ยวเมืองภารตะ กับ 11 สถานที่ ที่ต้องไป!!!

เชื่อว่าถ้ามีคนมาชวนไปเที่ยว "อินเดีย"
8 ใน 10 คนจะต้องบอกว่า....
ไปทำไมอินเดีย?
มีอะไรให้เที่ยว?
สกปรก น่ากลัว อากาศร้อน อาหารไม่น่ากิน 
บลา บลา บลา

แต่วันนี้ เนยอยากให้เพื่อนๆ เปิดใจ
แล้วลองดูทริปนี้ของเนยกับคุณแม่ค่ะ





ที่เนยพูดมาทั้งหมดนั้น คือความคิดของคุณแม่
ตอนที่เนยเอ่ยปากชวนไปเที่ยวอินเดียครั้งแรก

แต่ตอนนี้ นางบอกเองเลยว่า
อยากไปอินเดียอีก อินเดียสวย
สงสัยได้พาไปอีกหลายๆ เมืองแน่นอนค่ะ


เอาล่ะ ว่าแต่อะไรที่ทำให้คุณแม่ของเนย
เปลี่ยนคำพูดได้ขนาดนั้น
ต้องลองมาชมกันเอาเองค่า




                    อินเดีย


...........................................

วันแรก เราบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ
ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG323
เพื่อออกเดินทางสู่ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย 

ปล. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง



เพื่อนร่วมทริปก็จะมีทั้ง ฮินดู และ อิสลามค่า




ถึงแล้วค่า






สนามบินนานาชาติ อินทิราคานธี
กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย



ปล. เวลาของอินเดีย ช้ากว่า ไทย 1.30 ชั่วโมง


นั่งเครื่องมา 3 ชั่วโมงกว่าๆ
ก็นั่ง รถบัส ไป เมืองชัยปุระ
หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ "นครสีชมพู"
เพื่อไปยังโรงแรมที่พัก


ปล. ใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมงจ้าา



เราก็จะได้เห็นวิวระหว่างทาง
รถ Taxi เค้าเป็นสไตล์ รถตุ๊กๆ บ้านเราอ่ะค่ะ

วันแรกเนี่ย 
อยากจะบอกว่าเป็นวันที่เดินทางทั้งวันค่ะ


เราพักกันที่ PARK REGIS HOTEL
เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ค่ะ





คนอินเดียเค้านับถือ วัว เป็นเทพเจ้าค่ะ





พาชมห้องพักค่ะ




ห้องนอน 










เก็บข้าวของเสร็จ
ก็ลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารค่ะ

มาดูหน้าตา อาหารอินเดีย มื้อแรกกัน

บอกก่อนเลยว่า ลุ้นและตื่นเต้นมากกก!!!
เพราะปกติเนยไม่กินผัก และ ไม่ชอบเครื่องเทศ




ผัดมะเขือม่วง
(อันนี้ขอผ่านค่ะ ไม่กินผัก)




ผัดไก่
(อันนี้รสชาตเหมือนของไทย กินได้ค่ะ)






ต้มซุปไข่
(ต้มจืด แบบ จืดจริงๆ)




ผัดเส้น
(เส้นเหมือนสปาเกตตี้ แต่จืดมาก)




พีคสุดต้องเป็นอันนี้ค่ะ
หน้าตาอันล่างเหมือน......... คิดเอาเองนะคะ
แต่อันบนอร่อยค่ะ
เป็นมะเขือม่วง ราดด้วยซอสมะเขือเทศและชีส

กินเสร็จ ขอตัวไปนอนพักนะคะ
พรุ่งนี้เที่ยวที่ไหนบ้าง รอชมน้าาาา

.....................................



....วันที่สอง...
ตื่นเช้ามา อากาศแจ่มใส
ขอถ่ายรูปเล่นหน้าโรงแรมหน่อย







ถ่ายรูปกับคนท้องที่หน่อยค่า
(สีสันแข่งกันสดใสน่าดูเลยค่ะ)

มาที่นี่แต่งตัวน่าสนุก ดีนะคะ
สดใสได้เต็มที่เลยค่า




ชุดวันนี้ ขอเป็นแนว เจ้าหญิงจัสมิน หน่อยๆ





ที่แรกที่เราจะไปเที่ยวกัน คือ...
1.พระราชวังสายลม (HAWA MAHAL)
พระราชวังแห่งนี้สร้างด้วยหินทรายสีชมพูและสีแดง








พระราชวังสายลมนี้
มีความสูงถึง 5 ชั้น สูง 15 เมตร
มีหน้าต่างทั้งหมด 953 บาน






หน้าต่างแต่ละบานเป็นช่องลมลายฉลุ
เพื่อให้อากาศถ่ายเท และให้แสงลอดผ่านได้








สร้างเพื่อให้นางสนมในวัง
สามารถมองเห็นวิถีชีวิตผู้คนในเมือง
หรือขบวนพิธีต่างๆ ที่เกิดขึ้นนอกเมืองได้











ปล. ถ้าอยากได้รูปสวยๆ
แนะนำให้ขึ้นตึกฝั่งตรงข้ามมาถ่ายรูปค่ะ






เพราะถ้าถ่ายจากถนนด้านล่าง
จะเก็บภาพพระราชวังไม่ครบค่ะ







ไปต่อกันที่...
  2. ป้อมปราการใหญ่แห่งเมืองชัยปุระ  
  (AMBER FORT)  

ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงของเมืองอาเมร์
เราจึงต้องนั่ง รถจีป  ขึ้นไปค่ะ




ก็จะได้ชมเมือง ชมผู้คนในเมืองตลอดทางค่ะ





นั่งแปปเดียวก็ถึงค่ะ






ลงจากรถปุ๊ปก็จะเจอ พ่อค้า มารุมขายของแบบนี้
คือตามชนิดที่ยิ่งกว่าเงาค่ะ
ถ้าไม่อยากได้จริงๆ 
ให้เดินแบบไม่สนใจจะสนทนาด้วยเลยนะคะ
ไม่อย่างนั้น เราอาจจะไม่ได้ถ่ายรูปได้ค่ะ




บริเวณทางเข้า พี่ยามเฝ้าประตู
ก็จะประมาณนี้ค่ะ









ป้อมปราการนี้จะเป็นสีโทนเหลืองๆ ค่ะ





ร้อนมาก เลยซื้อร่มจาก พ่อค้า คนตะกี้ ฮ่าๆๆๆ





สีของป้อมปราการจะออกซีดๆ
แนะนำให้แต่งตัวสีสดๆ เด่นค่าา



















แดดก็จ้า เตรียมแว่นตาให้พร้อม!!





ป้อมปราการแห่งนี้เดิมใช้ป้องกันข้าศึกที่รุกรานได้
มีแม่น้ำล้อมรอบ

















ขนาดของกำแพง คล้ายกำแพงเมืองจีน
ยาวกว่า 13 กิโลเมตร





ภายในประกอบด้วยพระตำหนักสวยงามมากมาย
ตามมาชมกันเลยค่าาา





ป้อมปราการนี้ ถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมดเลยค่ะ










ใครนึกมุมไม่ออก ตามรอยเนยได้เลยนะคะ
ไม่หวงค่า






แข่งกันสดใส





ปล. อยากจะบอกว่าคนอินเดีย
ชอบถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวนะคะ





เอาหนุ่มๆ มาฝาก
ใครชอบคนไหน ติดต่อกันเองเด้อออ





ต่อไป เราไปต่อกันที่
  3. พระราชวังกลางน้ำ (JAL MAHAL)  

เป็นพระราชวังที่
ตั้งอยู่ กลางทะเลสาบ  Man Sugar Lake







มีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่ด้านหลัง
ตัวอาคารสร้างด้วยหินทรายสีแดง
มีทั้งหมด 5 ชั้น
แต่ 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วม
เมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด
และ เหลือให้เห็นแค่ชั้นบนสุดเท่านั้น!!




ที่นี่จะมีตลาดนัดเล็กๆ ขายของด้วยค่ะ





ที่นี่เราแค่ผ่านชมนะคะ 
ไม่ได้เข้าไปในพระราชวังกลางน้ำค่ะ

ไปต่อกันที่....
4. พระราชวังหลวง (CITY PALACE)



ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมได้









ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศของ
ราชาหรือราชินี สามารถ นั่งรถม้า เล่นได้ค่ะ
















ใต้อาคารจะมี การสอนโพกศีรษะ 
ตามแบบฉบับชาวฮินดูค่ะ






มองเผินเหมือนภาพศิลปะ
แต่ดูดีๆ นี่คือปืนล้วนๆ ค่ะ






ถ่ายมุมไหนก็สวยอีกแล้วครับท่าน






จุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูป
อยู่ที่ ลานนกยูง ค่ะ






เป็นลานทีเหล่านางรำจะออกมาร่ายรำ
ณ ลานแห่งนี้






ลานนี้ล้อมรอบด้วยประตู 4 บาน
แต่ละบานจะมีภาพวาดที่เป็นสัญลักษณ์ของ 4 ฤดู






แอบดูนักท่องเที่ยวคนอื่น แล้วถ่ายตาม อิอิ






สวยทุกประตูเลยค่ะ 





บริเวณด้านหน้าพระราชวัง มี ถนนขายของ ค่ะ





ส่วนใหญ่เป็น เครื่องแต่งกายค่ะ
อาทิ เสื้อ กางเกง กระเป๋า รองเท้า
เครื่องประดับ ฯลฯ





















เดินช้อปปิ้งจนเหนื่อย แวะกิน น้ำมะนาวคั้นสดๆ ค่ะ






ส่วนผสมคือ มะนาว + โซดา + เกลือ + พริก
อร่อยค่า

ปล.ท้องไม่เสียนะ คอนเฟิร์ม





ไปต่อกันที่....
   5. วัดพระพิฆเนศ (GANESH TEMPLE)  

เป็นสถานที่ยอดนิยมที่ชาวต่างชาติ
และชาวอินเดียเดินทางมาเคารพสักการะ
เพื่อเป็นสิริมงคล



พระพิฆเนศวรช้างหัวเทพ
ในศาสนาฮินดูเชื่อว่า
เป็นเทพเจ้าแห่งความมงคล
ความรู้ และ ความมั่งคั่ง





ใกล้ๆ กันนั้นมี
   6. วัดพระแม่ลักษมีนารายัน   
   (Birla Mandir Temple)  

วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระนารายณ์และพระลักษมี





สร้างขึ้นจากหินสีขาวแกะสลัก






สามารถเข้าชมด้านในได้
แต่ห้ามถ่ายรูปค่ะ
เลยไม่มีภาพสวยๆ มาอวดกัน






วันนี้เที่ยวเท่านี้ก่อน
พรุ่งนี้ไปไหนต่อ รอติดตามนะคะ


..........................................







วันที่สาม.....

วันนี้ขอแต่งตัวอินเดียๆ หน่อยๆ
เราจะค่อยๆ ขยับเลเวลนะคะ


ตื่นเช้ามาถ่ายรูปหน้าโรงแรมอีกสักนิด









วันนี้เราจะเดินทางไป เมืองอัครา
ใช้เวลาเดินทาง 4.30 ชั่วโมงค่ะ


ที่แรกที่เราจะไปชมคือ
  7. บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ 
(CHAND BAORI)   







เป็นโบราณสถานอันเก่าแก่





เป็นบ่อน้ำขั้นบันไดที่ ลึกที่สุดในอินเดีย
มีขั้นบันได 3,500 ขั้น
สูง 13 ชั้น ลึก 30 เมตร







ต้องเทียบกับคน
ถึงจะรู้ว่าใหญ่อลังการขนาดไหน!!!






ที่สร้างบ่อนี้ขึ้น
ก็เพราะในสมัยก่อนประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ
จึงได้รวบรวมชาวเมืองมาสร้างบ่อน้ำแห่งนี้
เพื่อกักเก็บนน้ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้ง



ที่นี่ มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะเลยค่า








เมื่อเราลงไปถ่ายในบ่อน้ำไม่ได้
เราก็ต้องถ่ายบริเวณรอบๆ แบบนี้แหละเนาะ










เหมือนหลุดไปในอีกยุคนึงเลย





หอมปากหอมคอ กับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
เนยจะพาชมบริเวณด้านนอกค่ะ
ยังมีโบราณสถานสวยๆ อีกหนึ่งอัน




เป็นที่กราบไหว้ศิวลึงค์ค่ะ


















รู้สึกคล้ายๆ การแกะสลักหินแบบปีระมิด








ขากลับ แวะชอปปิ้งเล็กน้อย





ขนมแบบนี้ไม่รู้เรียกว่าอะไร
แต่คล้ายๆ ข้าวเกียบว่าว กับ ปาท่องโก๋
หน้าตาคุ้นเคย แต่ก็ไม่กล้ากินอยู่ดี
กลัวท้องเสีย




ไปต่อกันที่
     8. อัคราฟอร์ท (AGRA FORT)   
เป็นป้อมปราการ มรดกโลกโดยยูเนสโก










ใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึงสามยุค







บริเวณทางเข้า คนเยอะมากกกก












พาไปชมด้านในกันค่ะ








มีความโดดเด่นตรงที่สร้างด้วยอิฐสีส้ม
ล้อมรอบด้วยกำแพงถึง 2 ชั้น








ภายในแบ่งเป็นโซนต่างๆ
ทั้งห้องส่วนพระองค์ ท้องพระโรง
ลานน้ำพุ  สวนดอกไม้ ฯลฯ












วันที่ไป ฝนดันตกซะงั้น!!












ออกไปเล่นน้ำฝนกับเด็กๆ สนุกสนาน














ไม่ได้สร้างจากอิฐแดงทั้งหมดนะคะ
มีบางส่วนที่สร้างจากหินอ่อนสีขาว
























จากบนป้อมปราการนี้
เราจะสามารถมองเห็น ทัชมาฮาล ได้






ใช้ Huewei  ซูมให้ดูค่ะ
นู่นไง ขาวๆ ลิปๆ 
เห็นจากตรงนี้ยังรู้เลยว่าสวย
เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปชมนนะคะ







วันนี้สงสัยจะได้เที่ยวแค่นี้
เพราะฝนกระหน่ำมากค่ะ







ติดตามต่อพรุ่งนี้น้า
วันนี้ลาไปก่อนค่า

..................................................



วันที่สี่ วันสุดท้าย
วันนี้จะพาไป ไฮไลท์ที่สุดของทริปนี้ค่ะ
นั่นก็คือ....

   9.ทัชมาฮาล (TAJ HAMAL)   

ปล.แนะนำให้หา ส่าหรี มาใส่
และให้มาถึงแต่เช้า รอเวลาเปิดให้เข้าชมเลยค่ะ
ไม่อย่างนั้น คนจะเยอะมากกกกก

เนยมาตั้งแต่ไก่โห่!!!




จัดชุดส่าหรีมาเต็มค่ะ!!













ซึ่งทัชมาฮาลนั้นเป็น 
1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก












เป็น อนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่
ของพระเจ้าชาห์ชะฮาน กับ พระมเหสี





ซึ่งพระองค์พบรักกันตั้งแต่มีพระชมมายุ 14 พรรษา
และ 5 ปีหลังจากนั้น ทั้งสองก็ทรงอภิเษกสมรสกัน





ซึ่งทัชมาฮาลสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นหลุมฝังศพ
ของพระมเหสี มุมตัช มาฮาล
ซึ่งทรงสิ้นพระชนม์หลังจากให้กำเนิดธิดาองค์ที่ 14

โอ้วแม่เจ้า!!!

พอสายๆ คนเริ่มเยอะ
ถ่ายรูปก็จะติดคนหน่อยๆ







ใช้ผู้สร้างและร่วมออกแบบกว่า 20,000 คน
และใช้เวลาสร้างถึง 22 ปี

ไปชมด้านในกันนะคะ



ก่อนอื่น ต้องใส่แบบนี้หุ้มรองเท้าทุกคนค่ะ










พอเข้ามาด้านใน ถึงรู้ว่าใหญ่มาก
เป็นหินสีขาว















แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าสีสดๆ นะคะ














ใส่ส่าหรี สีสดๆ สวยแน่นอนค่ะ







เบื้องหลังภาพสวยๆ











จากด้านบนนี้
เราสามารถถ่ายย้อนไปทางเข้า
ได้ภาพประมาณนี้ค่ะ







นี่เพื่อนร่วมทริปของเนยค่ะ
จัดเต็มกันทุกคน











ขอตัวไปตะลุยถ่ายรูปก่อนนะคะ

......................................



เสร็จจากทัชมาฮาล ก็ขอเปลี่ยนชุด



แล้วไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่

   10.วัดลักษมีนารายัน   
   (LAKSHMI NARAYAN TEMPLE)  


วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระนารายณ์ (ผู้สร้างโลก)
และ พระลักษมี (เทพแห่งความมั่งคั่ง)





ที่นี่มีทั้งชาวอินเดียและชาวต่างชาติ
นิยมเดินทางมาเคารพสักการะ
เนื่องจากเชื่อว่า.....
 ถ้ามาขอพรที่วัดนี้จะสมดั่งปรารถนา



ถ้าเราหยอดเงินทำบุญ
เค้าจะให้พวงมาลัยมาคล้องคอแบบนี้
และแต้มผงสีแดงที่หน้าผากด้วยค่า

ต่อจากนั้น ก็ไปที่สุดท้าย
คือไปช้อปปิ้ง ซื้อพวกของฝาก ของที่ระลึกค่ะ
เราจะไปกันที่...


    11.ตลาดจันปาท (JANPATH MARKET)   

ที่นี่เราจะเลือกซื้อของฝาก 
ของที่ระลึกต่างๆ มากมาย
ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า 
เครื่องประดับ ฯลฯ







ซื้อแม่เหล็กติดตู้เย็นเป็นของที่ระลึก





ซื้อเศียรไม้แกะสลักเป็นที่ระลึก
(ก็มาเมืองกำเนิดพระพุทธเจ้าอ่ะเนอะ!)




ซื้อตุ๊กตาหุ่นไม้สุดหลอน ไปฝากแฟน




ซื้อพระพิฆเนศปลุกเสกมาบูชา





ที่ขาดไม่ได้เลยคือนี่ค่ะ

1. ลิปบาล์ม Himalaya จัดมา 1 กระปุก
2. อายครีม Himalaya จัดมาครึ่งโหล
3.น้ำยาหยอดตา Himalaya


ต้องบอกว่า มาถึงอินเดีย
ต้องซื้อนะคะยี่ห้อนี้ Himalaya
เพราะเป็นแบรนด์ของประเทศนี้เลยค่ะ
เป็น ผลิตภัณฑ์ออแกนิค ที่ดี ใช้แล้วเห็นผล
ราคาก็ไม่แพงด้วยค่า
ซื้อเป็นของฝากได้เลย


ราคาที่อินเดียจำไม่ได้
แต่ราคาที่ไทย ประมาณนี้ค่ะ





















ทริป อินเดีย นี้
หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบกันน้า

วันนี้เราสองแม่ลูกลาไปก่อน 
เจอกันทริปหน้าค่า

........................................



ช่วง "เม้ามอยอินเดีย"

- อินเดียมี ประชากร มากเป็นอันที่ 2 ของโลก
- อินเดียมี พื้นที่ ใหญ่เป็นอันที่ 5 ของโลก
- อินเดียเป็นประเทศที่เป็น ประชาธิปไตย มากที่สุด
- ในเมืองไม่ค่อยแบ่ง ชั้นวรรณะ แต่ตามชนบทยังเป็นอยู่
- เมืองดารา คือ มุมไบ มีแต่คนรวยๆ และ หน้าตาดี
- จัณฑาล มีอาชีพไม่กี่อย่าง เช่น เก็บขยะ ฆ่าสัตว์ สัปเหร่อ 

- ภาษาไทย กับ ภาษาอินเดีย บางคำมีความคล้ายกันมาก เช่น นมัสเต แปลว่า สวัสดี คนไทยเอามาใช้กลายเป็น นมัสการ 

- ห้ามนินทา คนอินเดีย เพราะ นางฟังรู้เรื่อง นางชอบนั่งการบินไทย (ถ้าเป็นคนพอมีฐานะ)

- กฎหมาย ที่นี่แรงกว่าบ้านเรา
  รถวิ่งได้ไม่เกิน 30 กม./ชั่วโมง วิ่งช้ามาก
  สัตว์ต่างๆ เช่น อูฐ วัว แพะ 
  เดินบนถนนสบาย รถไม่ชน

- อินเดีย กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย มักใช้วิธี ประจาน

- คนอินเดียไม่กลัวปืนตำรวจ แต่ กลัวกระบอง ที่เหน็บไว้ข้างเอวตำรวจ เพราะหนักมาก 

- บ้านเรือน ที่นี่ ต้องสร้างเหมือนยังไม่เสร็จ
  เพราะถ้าเสร็จจะเสียภาษีแพงมาก

- แทบทุกบ้านมี ดาดฟ้า เอาไว้นั่งรับลมตอนกลางคืน 

- ภายในบ้าน จะโล่งๆ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ มีแค่เตียง แคร่ หลังบ้านจะมีเตาไว้ทำอาหาร หน้าบ้านจะเอาไว้เลี้ยงสัตว์ 

- ทุกบ้านไม่มีห้องน้ำ ทุกคนจะไปขับถ่ายในป่า ในสวน ในทุ่งหญ้า ผู้หญิงไปเฉพาะตอนกลางคืน


- คนอินเดีย ไม่ทานหมู กิน ปลา ไก่ 
  และหมูป่าถือเป็นเทศบาลคอยกำจัดขยะ 

- อินเดีย ไม่นิยมใช้เหรียญ

- เครื่องดื่มประจำชาติ คือ การัมจาย
  เป็นชาใส่นมต้มร้อนๆ

- ตามร้านกาแฟ จะใช้แก้วที่ปั้นจากดิน
  เพราะใช้เสร็จจะได้ปาลงพื้นให้แตก
  เป็นการไม่ใช้แก้วร่วมกับวรรณะอื่น

- วัว ที่เดินไปมาตามท้องถนน ไม่มีเจ้าของ
   เดินบนถนน ขับรถห้ามบีบแตรใส่วัว
   ขี้วัวจะถูกนำมาผสมกับฟาง ใช้ทำเป็นเชื้อเพลิง

- ผู้หญิงอินเดีย แต่งงานแล้ว จะโดนแต้มที่หน้าผาก 
 โดยสามีจะเป็นคนแต้มให้เมียทุกเช้า เป็นการให้พร
ผู้หญิงแต่งงานแล้วไม่ต้องทำงาน มีหน้าที่เฝ้าบ้าน 

แต่งงานแล้วต้องไป อยู่บ้านพ่อแม่ของสามี
  จะกลับบ้านตัวเองไม่ได้ นอกจากสามีจะพาไป
  ไม่สามารถไปเที่ยวหาพ่อแม่ตัวเองได้

- ผู้หญิงอินเดีย จะเสียใจที่สุดในวันแต่งงาน
  บางคนร้องไห้เป็นเดือน ตอนพ่อแม่เสียชีวิตร้องไห้แปปเดียว เพราะมีความเชื่อว่า ตายแล้วไปสวรรค์

- ผู้หญิงอินเดีย ก่อนแต่งงาน ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายเก็บเงินมาขอผู้ชาย เสียค่าแต่งงาน ซื้อบ้าน ซื้อรถ

- ผู้ชาย จะเป็นฝ่ายทำงาน หาเงิน เลี้ยงภรรยา หลังแต่งงาน 
  

- ขนมหวาน ของอินเดียที่เนยชอบมากคือ จาระบี
  เป็นเหมือนน้ำตาลชุบแป้ง หอมหวาน 
  กรอบนอก นุ่มใน อร่อยมากค่ะ



- แทบทุกมื้ออาหาร ต้องมี แผ่นโรตี







- อินเดียยังใช้ รถสามล้อปั่น อยู่ 






-  คนอินเดีย นิยมกินพืชผักผลไม้ ไม่เน้นเนื้อสัตว์ 










- โชว์เป่าปี่กับงู ยังมีให้เห็นอยู่
   นั่นงูอยู่ในถุง






ก็เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
จากที่เนยได้ไปสัมผัสมานะคะ


สำหรับคนที่สนใจอยากไปแบบเนยนะคะ
เนยไปกับบริษัท BEST INTERNATIONAL 
"มหัศจรรย์ ทัชมาฮาล
บินตรงสู่ นิวเดลี
5 วัน 3 คืน"

บินโดยสายการบินไทยค่ะ

ค่าทัวร์คนละ 20,900 บาท
ค่า VISA คนละ 3,500 บาท
ค่าทิปคนขับรถ คนละ 1,500 บาท

ใครสนใจจองผ่าน Agency 
บริษัทด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ

"Lovely Smile Tour"
โทร.02-1475648


ผิวโกล์วดูมีออร่าด้วย SKII 3 ตัวนี้เลย

เชื่อว่าสาวไทยหลายๆ คน ต้องการมีผิวที่สวยสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ นั่นก็คือ ปราศจากสิว รอยดำ รอยแดงจากสิว สีผิวสม่ำเสมอ ผิวอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน ดู...