วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562

พาเที่ยว OKINAWA สวรรค์ของคนชอบญี่ปุ่น และ หลงรักทะเล!!!


เห็นใครๆ ก็ชอบไปญี่ปุ่น
คนที่ยังไม่เคยไป ก็อยากไป
ส่วนคนที่เคยไปแล้ว ก็อยากไปอีก!!
เป็นประเทศที่คนไทยเราหลงไหลมาก

เนยก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบญี่ปุ่น
ชอบอาหาร ชอบอากาศ
ชอบคน ชอบวัฒนธรรม ความเป็นอยู่
เคยไปมา 2 ครั้งแล้ว แต่ก็ติดใจอยากไปอีก


แต่ถ้าไปเมืองเดิมๆ
อย่าง OSAKA , TOKYO , TOKYO
ก็เบื่อแล้ว

พอดี๊...มีเมืองใหม่น่าไป
และรับรองไม่ซ้ำแน่นอน
นั่นก็คือ "OKINAWA" 

เพราะเป็นตอนใต้ของญี่ปุ่น
เป็นเมืองทะเล 
ทำให้นึกถึงน้ำทะเล อาหารทะเล
ชุดว่ายน้ำ โอ้ย แค่คิดก็ฟิน!!



ว่าแล้วก็ไม่รอช้า
รีบส่งให้แฟนดู แล้วรีบจองกันเล้ย




ทริปที่เนยไปเป็นทริป 4 วัน 2 คืน
ไปช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
กับบริษัท CU Center 
ในราคาคนละ 22,900 บาทค่ะ

..............................................

วันแรก 
22.00 พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เตรียมพร้อมซื้อเน็ตให้เรียบร้อย
เนยเลือก AIS ค่ะ




ออกเดินทางจาก 01.00 น.
ด้วยสายการบิน PEACH AIR 
บินตรงเลยค่า




ถ้าไม่ถ่ายกับหน้าต่างเครื่องบิน
เดี๋ยวเค้าหาว่ามาไม่ถึง ฮ่าๆๆๆๆๆ




วันแรกนี่เรียกได้ว่า แค่เดินทางจริงๆ
นอนกันบนเครื่องเลยทีเดียว

ปล. ไม่มีอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องทั้งไปและกลับ
...............................................

วันที่สอง
เดินทางถึงสนามบิน NAHA 
เมือง OKINAWA ประเทศญี่ปุ่น

อากาศดูครึ้มๆ โอ้ยภาวนาให้ฝนอย่าตกนะ!!




ไม่ได้ผลจ้า ฝนตก!!!
ไม่เป็นไร ยังไงเราก็จะเที่ยว!!




โอกินาว่าในอดีตเป็นศูนย์กลาง
ของอาณาจักรริวกิว 
แต่ถูกญี่ปุ่นยึดอำนาจมารวมเข้าด้วยกัน

ปัจจุบันเป็นเมืองตากอากาศ
มีหาดทรายขาวสวย น้ำทะเลสีครามใสสะอาด
ปะการังยังสมบูรณ์
เป็นต้นกำเนิดศิลปะการต่อสู้อย่าง คาราเต้



ที่แรกที่เราจะไปคือ.......
1.  โอกินาว่าเวิลด์  





เป็นสถานที่ๆ รวมแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ
วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์มากมายของโอกินาว่า

ที่นี่จะมีที่เที่ยวหลายส่วน
แต่ที่ต้องไปเลยก็คือ
   ถ้ำเกียวคุเซ็นโด (Gyokosendo Cave)  
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี



ก่อนอื่น ดูแผนที่ภายในถ้ำก่อน
ดูอยู่นาน เพราะอ่านไม่ออก!! ปัํดโถ้ว



ถ้ำแห่งนี้เกิดจากปะการังธรรมชาติ
มามากกว่า 300,000 ปีมาแล้ว
ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมในช่วง 850 เมตร

ภายในถ้ำจัดทางเดินให้เข้าชมความงาม
มีหินงอกหินย้อย ลำธาร น้ำตก หลากหลายรูปร่าง




อันนี้งอกย้อนขึ้น



อันนี้งอกย้อยลง



เดินก็ระวังหินด้วยนะคะ



ถ้ำนี้ใหญ่และกว้างมาก
ต้องเข้าไปเกือบกิโล

แอบกลัว 
เมื่อในหัวแว้บเรื่องถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
กลัวติดถ้ำเหมือนน้องๆ 13 หมูป่า

แต่ถ้าเนยติด จะกลายเป็นอีหมูบ้าแน่ๆ
หิว ไม่มีไรกิน!!


บรรยากาศจริง ค่อนข้างมืดนะคะ
แอบมีน้ำตกให้พอชื่นใจบ้าง
สังเกตุดีๆ น้ำใสสุดๆ

เดินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอทางออกค่ะ
เล่นเอาหอบแดก

ค่อยยังชั่ว ขากลับมีลิฟต์ให้ขึ้น




  หมู่บ้านอาณาจักรริวกิว  
เป็นหมู่บ้านโบราณที่ถูกจดให้เป็นทรัพย์สิน
ทางวัฒนธรรมของชาติ





สิ่งที่เห็นได้ทั่วไปของที่นี่เลยก็คือ
โถดองงู ค่ะ




เป็นงูดองในเหล้า
แบบเป็นตัวๆ เลยทีเดียว!!







  สวนผลไม้ทรอปิคอล   
มีต้นไม้ถึง 450 ต้น
มีพืชพันธ์ุผลไม้ถึง 100 ชนิด
เดินชมสวนไปเพลินๆ




  การแสดงพื้นเมือง Super Aisa  

ชมวัฒนธรรมริวกิวที่มีสเน่ห์เอกลักษณ์เฉพาะตัว

คล้ายๆ ตีกลองสะบักชัย
กลองใหญ่และเสียงกึกก้องมาก



มีการเชิดสิงโต
เป็นละครสั้นๆ สนุกดีค่ะ




เสร็จจากที่นี่ 
ขอกินข้าวกลางวันก่อน

กินไรดี??




เลือกเมนูได้แล้วก็หยอดตู้
แล้วกดหมายเลขอาหารที่เราเลือกไว้เลยค่ะ
ตู้จะทอนเงินเราเอง


เลือกเมนู 5 จ้า
เป็นซูชิ หน้าปลาดอง



จานใหญ่มากกกกก
ตกใจเลย



แฟนเลือกคล้ายๆ หมูสตูค่ะ
อร่อยดี นิ่ม ละลายในปาก



ถ้าเป็นบ้านเรา เครื่องเคียงคงเป็นพริกน้ำปลา
แต่ที่นี่ เป็นอันนี้ค่ะ
เนยก็ไม่รู้ว่าคืออะไรเหมือนกัน แต่มีทุกโต๊ะเลย






  2. Shurijo Castle (ปราสาทซูริ) 
ว่ากันว่าเป็นที่ประทับ
ของพระราชาแห่งอาณาจักรริวกิว




ปราสาทนี้ผ่านการบูรณะใหญ่ๆ มาแล้วถึง 5 รอบ







เดี๋ยวจะพาชมมุมต่างๆ ของที่นี่นะคะ





สิงห์ห้อยสัปปะรด 
ซึ่งเป็นผลไม้สัญลักษณ์ของโอกินาว่าชนิดนึงค่ะ


วันที่ไปฝนตกพรำๆ ยังพอถ่ายรูปได้
ถือว่าเรายังโชคดีค่ะ
ดันไปหน้ามีพายุ ต้องทำใจ อิอิ


ตากล้องส่วนตัวของหนูค่ะ



เน้นคน ไม่เน้นวิว ตามสไตล์มุเนย
ตรงไหนสวยเราก็ถ่ายเนาะ



ด้านในจะมีการแสดงโชว์ด้วยค่ะ



การแต่งกายแปลกตาดี





  3. ศาลเจ้า Namioue (นามิโนอูเอะ) 
เป็น 1 ใน 8 ศาลเจ้าใหญ่ของริวกิว
และเป็นที่บูชาเทพเจ้าของญี่ปุ่น



มาดูกันว่าที่ศาลเจ้าญี่ปุ่น เค้าทำอะไรกันบ้าง
ถ้าเป็นวัดของไทย ก็จะต้องบูชาดอกไม้ธูปเทียน
ไหว้พระ เสี่ยงเซียมซี อะไรทำนองนี้


เค้าให้เอาเหรียญเงินที่มีรูตรงกลาง
มาอธิษฐานแล้วโยนลงช่อง


คนนี้อธิษฐานใหญ่เลย


ให้นำน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์มาล้างมือ 
แล้วตักดื่ม


เค้าต่อแถวทำอะไรกัน



มุงค่ะ 



เค้าหาซื้อแผ่นโชคลางค่ะ
ใครอยากมีโชคด้านไหน ก็จัดเลยจ้า
ไม่ว่าจะเป็นการงาน การเงิน ความรัก
การเสี่ยงโชค เมตตา ฯลฯ


แล้วก็มีเขียนคำอธิษฐานไปแขวนไว้






ถ่ายรูปใช่ชุดญี่ปุ่น เป็นที่ระลึกหน่อย


บริเวณรอบๆ 








ชาวโอกินาว่าจะมาไหว้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่แรก

ในวันปีใหม่ของทุกๆ ปีค่ะ

  4. ช้อปปิ้งที่ย่าน Shintoshin (ชินโตชิน) 

ทัวร์ปล่อยให้ช้อปปิ้งอิสระบริเวณย่านนี้
เพราะมีแหล่งช้อปปิ้งมากมาย
ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้าน 100 เยน 




มุเนยเลือกเข้าห้างสิคะ
เพราะเราจะได้ครบจบในหนึ่งเดียว
มีทั้ง MUJI , UNIQLO, ร้านเสื้อผ้า ฯลฯ


แต่พีคตรงที่ หนุ่มคนนี้
อยากเล่นตู้คีบตุ๊กตาจ้า



สีหน้าและแววตา จริงจังมาก บอกเลย


ด้วยความอยากใส่ชุดกิโมโน
เลยโฉบไปดูราคา



แทบช็อค!!! รวมๆ ชุดนี้เกือบ 10,000 บาทจ้า
โอ้วแม่เจ้า!!



เที่ยวมาทั้งวันแล้ว
ขอแวะกินอะไรสักหน่อยละกันค่ะ

เมนูที่นำเสนอวันนี้คือ "ชาบู สไตล์ญี่ปุ่น"


ซุปใส หวานจากผักล้วนๆ ค่ะ
เติมหมูได้เรื่อยๆ แต่ห้ามเติมผัก!!

ต่างจากของไทยเนอะ ของไทยหวงหมู
แต่ผักไม่อั้น



ต่อด้วยการดูโชว์ "การแร่เนื้อปลาทูน่าสดๆ"


ปลาทูน่าตัวนี้ ประมูลมาที่ราคา 60,000 บาทจ้า 


ได้กินกันทุกคน อร่อยมาก


กินเสร็จ ก็ได้เวลาไปที่พัก
คืนแรก เราพักกันที่ "Central Naha Hotel"








เป็นระดับ 3 ดาวนะคะ 
แต่อยู่ใจกลางแหล่งช้อปปิ้ง
ของโอกินาว่าเลยค่ะ

พาดูด้านในโรงแรม



จะแคบๆ นิดนึง



แต่จะแคบแค่ไหน ในห้องน้ำก็ยังมีอ่างอาบน้ำ









เอากระเป๋าและสัมภาระไปเก็บบนห้องแล้ว
ก็ได้เวลาตระเวนราตรีค่า


Taxi ที่นี่ เห็นเป็นรถโบราณ กิ๊บเก๋สุดๆ
มีหลายสีเลย น่ารักมาก




ของฝาก และ ของขึ้นชื่อของโอกินาว่าอีกอย่างคือ
"ขนมมันม่วง"





มีหลากหลายรูปแบบมาก 






ซื้อฝากใคร รับรองเค้าต้องบอกว่าอร่อย


สัญลักษณ์ของโอกิน่าว่า
อันนี้ก็ซื้อเป็นของฝากได้



และด้วยความที่เมืองโอกินาว่า
เป็นเมืองทะเลตอนใต้ของญี่ปุ่น
เสื้อพื้นเมืองของที่นี่จะเป็นสไตล์ฮาวายๆ แบบนี้ค่ะ
ใส่กันเยอะมาก 



ที่ผู้หญิงอย่างเราๆ พลาดไม่ได้เลยคือ
"ร้านขายเครื่องสำอางค์" ค่ะ

ของเยอะมาก



ที่สำคัญราคาถูกด้วย





ถ้าพูดถึงอาหารเสริม ต้องตัวนี้เลย "DHC"
มีทุกสี ทุกแบบ 
แถมราคาถูกมว๊ากกกกกก



ดังสุดต้องยกให้ตัวนี้ค่ะ Vitamin C


ย่านนี้ปิดประมาณ 22.00 นะคะ
เดินจนเมื่อย วันนี้ขอตัวลาไปพักผ่อนก่อน
พรุ่งนี้จะพาไปไหนบ้าง รอตามน้า

....................................................

วันที่สอง
เรามาเริ่มเช้าวันใหม่กันที่
   5. ผามันซาโมะ   





เป็นผาหินสูงชันกว่า 30 เมตร
ลักษณะคล้ายงวงช้าง
หันหน้าออกสู่ทะเล


เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโอกินาว่า
เนื่องจากเป็นพื้นที่สีเขียวของต้นหญ้า
ตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล


ความกว้างของผาหินนี้
สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 10,000 คน!!
ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่นิยมที่จะมาตั้งแคมป์ที่นี่ด้วยค่ะ


ระหว่างทางที่เดินไปเรื่อยๆ
เราก็หามุมถ่ายรูปได้ตลอดทางค่ะ







ต้นไม้ริมทะเลก็จะหน้าตาแปลกๆ นิดนึง


ไกด์ให้เวลาอยู่ตรงนี้ประมาณ 45 นาที
เวลาหมดไปไวมาก
เราไปต่อกันที่ต่อไปเลยเนาะ

   6. นั่งเรือท้องกระจกที่ Kariyushi   






นั่งเรือท้องกระจำชม หมู่ประการังน้ำตื้น
และปลาทะเล!!



นั่งเรือออกไปสักพัก เพื่อให้ไปยังจุดที่มีปะการัง







น้ำทะเลใสมว๊ากกกกกกก




เค้าจะมีป้ายติดไว้ ว่าเราอาจจะได้เจอปลาอะไรบ้าง



ถ้าโชคดีอาจได้เจอ งูทะเลเอราบุ อย่างใกล้ชิด
แต่เนยไม่เจอค่า



ที่นี่ให้อาหารฝูงปลาทะเลนับพันตัว
ที่อาศัยอยู่ตามแนวประการังที่อุดมสมบูรณ์
ได้ด้วยนะคะ

อาหารที่ให้ปลาคือขนมปัง
เค้าจะมีขายบนเรือ
ปลาก็มารุมกินเพียบเลยค่ะ


เราจะไปต่อกันที่
   7. Churaumi Aquarium   



มีโบชัวร์เป็นภาษาไทยให้ด้วยน้า



เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทันสมัย
และใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น!!!



ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก!!!




ชื่อของอควาเรียมนี้มาจาก...
"Chura" หมายถึง ความงาม
"Umi" หมายถึง ทะเล


เป็นสถานที่แสดงพันธุ์ปลาทะเล 
ปะการัง และปลาฉลามมากมาย
บนพื้นที่กว่า 19,000 ตารางเมตร
ถือว่ากว้างใหญ่มาก 
เวลาที่ให้มาอาจไม่พอ บริหารเวลาดีๆ นะคร้า


ที่นี่แบ่งออกเป็น 4 ชั้น
คือ Great Sea, Coral Reaf, 
Black Current และ Deep Sea

คงต้องเลือกไปชม 
ชมทั้งหมดคงไม่ทัน!!


ที่นี่เราจะได้ชมสัตว์ทะเลมากมาย เช่น 
งูทะเล ปลิงทะเล หอยเม่น กุ้งมังกรยักษ์ ปูอลาสก้า






ลองจับปลิงทะเลดู
นุ่มมากกกกก นุ่มนิ่มสุดๆ

ปล. เค้าให้จับได้นะคะ



ปลาดาวก็จับได้



จับเสร็จเค้าจะมีที่ให้เราล้างมือ



และที่สุดของที่นี่ที่พลาดไม่ได้เลย
คือ ชมตู้ปลาอคริลิคขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น 

ขนาดกว้าง 22.5 เมตร
สูง 8.2 เมตร
และหนาถึง 60 ซม.



ตู้ใหญ่มาก เอาคนยืนเทียบให้ดู



ไฮไลท์ในตู้คือ ฉลามวาฬ และ ปลากระเบนยักษ์



น้องวาฬยักษ์ไม่ได้มีตัวเดียวในตู้นะคร้า
มี 3 ตัวในตู้จ้าาาาา





จากนั้นเดินไปอีกหน่อย
เพื่อไปชม การแสดงปลาโลมาแสนรู้
ที่บ่อโชว์กลางแจ้ง



มี วาฬเพชรฆาติและโลมาปากขวด
เป็นตัวแสดงหลัก
มีความฉลาดและแสนรู้มาก




โชว์สนุกมากค่ะ หัวเราะได้ตลอดเลย
ห้ามพลาด!!
มันมีเป็นรอบนะคะ 


การแสดงใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ

ชมโชว์เสร็จแล้วขอแวะไปดูโซนของที่ระลึกบ้าง
ก็จะมีเหล่าโมเดลน้องปลา






ราคาก็เอาเรื่องอยู่ 
เลยได้มาแค่นี้ 555



เที่ยวจนเหนื่อย ขอแวะกินข้าวแปปนึงนะคะ

วันนี้เราจะมากิน เทปันยากิ
เป็นอาหารญี่ปุ่นที่ใช้กระทะเหล็กแบนๆ 
ในการปิ้งอาหาร


ใช่แล้วค่ะ มันคือหมูกะทะร้อน!!
กรี้ดดดด!!
เมนูในฝัน

และแน่นอน มันเป็นบุฟเฟ่ต์จ้าาาา




เติมหมูได้ไม่อั้น!!!



หมูก็มีให้เลือกหลายแบบ
แต่แบบที่ชอบคือ มันหมู!!



ปิ้งมันเยอะๆ ค่ะ อย่าให้กระทะว่าง




อื้อหือ!! กรอบสุดๆ



กินไปประมาณเกือบชั่วโมง
มีแรงไปเที่ยวต่อแล้วล่ะ

   8. American Village  
ตั้งอยู่ในเมือง Chatan
อยู่ตอนกลางของ โอกินาว่า

สร้างเลียนแบบแหล่งช้อปปิ้งย่าน 
ซานดิเอโก้ ของสหรัฐอเมริกา

นอกจากแหล่งช้อปปิ้งแล้ว
ยังมีแหล่งเอนเตอร์เทนต่างๆ มากมาย
เช่น โรงภาพยนตร์ โบว์ลิ่ง คาราโอเกะ
เกมเซนเตอร์ ร้านอาหาร ฯลฯ


แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคือ
ชิงช้าสวรรค์ ค่ะ

สำหรับใครที่ไม่ได้อยากถ่ายจากด้านล่าง
แต่อยากขึ้นชิงช้าสวรรค์จริงๆ

เดินไปชั้นบนสุดของห้างนะคะ
ชั้น เกมเซนเตอร์


หยอดเหรียญ เพื่อซื้อตั๋ว



เราจะได้ตั๋วหน้าตาแบบนี้มาค่ะ
คนละ 500 เยน




แล้วก็ไปต่อคิว 
ได้ Lucky Number กุจะรอดมั้ยเนี่ย



ขึ้นกระเช้าด้วยใจหวั่นๆ 
เพราะมันสั่นหน่อยๆ ค่ะ



แต่พอขึ้นมาได้บนจุดสูงสุด
ได้เห็นวิวสวยๆ ก็ยิ้มออก แฮร่






ทันดูตะวันตกดินพอดี แหม๋ โรแมนติก

แล้วเราก็เดินทางไปทานอาหารเย็นกันต่อค่ะ
มื้อนี้จะเป็น Japanese  Set






พร้อมชม  โชว์พื้นเมืองโอกินาว่า

Japanese Set ก็จะหน้าตาแบบนี้
คือมาอย่างละนิดละหน่อย
คล้ายๆ ละม้าย อาหารถวายศาลพระภูมิบ้านเราอ่ะ




.................................

มาต่อกันที่วันที่สาม
วันนี้เนยจะพาเที่ยว "ตลาดปลา"
ก็แหม๋ มาเมืองทะเลทั้งที
ก็ต้องลองกินอาหารทะเลสดๆ ป่ะ
มาๆ ตามมาดูว่าจะฟินขนาดไหนค่า





ตลาดแห่งนี้แหละ แต่ชื่ออะไร จำไม่ได้ แฮร่
มาดูว่ามีอะไรกินบ้าง
ใช่ค่ะ เราจะกินกันที่นี่เลย
เดินไป กินไป่
ไม่ใช่ๆ เค้ามีที่ให้นั่งกินจ้า

เริ่มจากดูสัตว์แปลกๆ ของสดกันก่อน

 น่าจะเป็นหอยงวงช้าง 
เอ่อ...หน้าตามันก็จะคล้ายๆ อะไรสักอย่าง คุ้นๆ

ต่อมาเป็นปลาหมึกยักษ์ที่เราเคยกินกับข้าวปั้น
หอยนางรม สดๆ จ้า


ปลาดิบถูกมาก ถาดละ 1,500 เยนจ้า


กุ้งหวาน และ หอยเชลล์ ยั่วๆ
ราคา 500 - 600 เยน โอ้วแม่เจ้า
ราคาช่างต่างกับที่ไทยยิ่งนัก!!!


Uni (อูนิ) ไข่หอยเม่น
ที่บ้านเราขายเป็นคำๆ คำละเป็นร้อย
ที่นี่มาเป็นถาดจ้า
ถาดละ 1,200 เยน โอ้ยยย

อันนี้ไข่ปลาแซลมอน
มาเต็มๆ เป็นถ้วย
ถ้วยละ 1,600 เยนจ้า ถูกไปอีก

สำหรับคนที่ชอบเป็น Set
นี่เลยค่ะ ขอนำเสนอ Sasimi Set
รวมทุกปลา!! ราคา 3000 เยน




สายข้าวก็มีข้าวหน้าปลาดิบนำเสนอจ้า



ข้าวปั้นก็มา หมดนี่ 1,500 เยน




ทีเด็ดอยู่นี่ กุ้งมังกรอบชีส จ้า
1 ตัว ผ่าครึ่ง!!


ราคาครึ่งตัว 1,500 เยนจ้า ถูกมว๊าก







คำเน้นๆ โตๆ เนื้อเต็มปากเต็มคำจ้า

ต่อด้วยหอยเชลล์ตัวใหญ่ อบชีส


จัดมาแทบทุกอย่าง
อร่อย ฟินโครตๆ
สำหรับใครที่หิว อันนี้ช่วยไม่ได้จริงๆ ค่ะ



กินอิ่มแล้ว จะพาไปเดินย่อยค่ะ
เราจะไป Shopping!!!






"Ashibinaa Okinawa Outlet Mall"
มีแบรนด์อะไรบ้าง มาดู












เดินกันสนุกสนาน แต่ไม่มีตังส์ซื้อจ้า ฮ่าๆๆ


หมดแล้วนะคะ
สำหรับทริป Okinawa 


ทริปหน้า เราจะพากันไปไหน
รอติดตามน้า!!!

ผิวโกล์วดูมีออร่าด้วย SKII 3 ตัวนี้เลย

เชื่อว่าสาวไทยหลายๆ คน ต้องการมีผิวที่สวยสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ นั่นก็คือ ปราศจากสิว รอยดำ รอยแดงจากสิว สีผิวสม่ำเสมอ ผิวอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน ดู...