วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2559

อวดของใช้ดี Daiso ไม่ใช้ถือว่าพลาดดดดดดดด!




เนื่องด้วยเคยได้ยินกระแสมาก่อน
ได้ยินมานานละ เกี่ยวกับ "มาส์กเต้าหู้"
แต่ตอนแรกไม่กล้าใช้ 

ใครจะไปกล้าเสี่ยง คือราคามันถูกไป
ไม่กล้าที่จะเอาหน้าปังๆ ไปพัง อ่ะนะ

แต่ด้วยแบบราคามันน่าโดน 
แถมตอนนั้นก็มาส์กหมดพอดี๊...
ก็เลยซื้อมาลองสักกระปุก

ปรากฏว่า เฮ้ยยยย ใช้ดีอ่ะ
ดีจนชอบ ต้องมีไว้ติดบ้าน จนต้องแนะนำให้แม่ใช้
หลังจากนั้น เราก็เลยลอง "โฟมล้างหน้า" ต่อ

ก็อีกละ ใช้ดี๊..ดี 
ทีนี้เลยเหมามายกเซ็ตเลยค่ะ

จะมีอะไรบ้าง แต่ละตัวใช้แล้วเป็นยังไง
ดีไม่ดียังไง มุเนยจะมาเล่าแจ้งแถลงไขทีละตัวเลย

........................................


เซ็ตเต้าหู้ มีทั้งหมด 4 อย่าง ได้แก่
1. โฟมล้างหน้า
2. มาส์กนอน (Sleeping Mask)
3. สครับขัดตัว
4. มาส์กแผ่น 



ที่พีคคือทุกชิ้น    ราคาชิ้นละ 60 บาท!!
ไม่ใช่ราคาโปรโมชั่นใดๆ นะคะ
นี่คือราคาปกติ ขายราคานี้ทั้งปีทั้งชาติค่ะ

ถามว่าหาซื้อได้ที่ไหน
คิดว่าทุกที่ ที่มีห้าง Central Plaza นะคะ
น่าจะมี   Daiso Shop 

......................................

มาดูตัวแรกกันเลย
 "Tofu Whitening Facial Foam"

โฟมล้างหน้าสูตรเต้าหู้ญี่ปุ่น 
ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน
ด้วยเนื้อโฟมสูตรพิเศษ 
พร้อมบำรุงผิวให้เนียนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
ด้วยสารสกัดจาก...
ถั่วเหลือง คอลลาเจน และวิตามินซี



ใช้แล้วฟองมันนุ่มมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
กลิ่นก็หอมอ่อนๆ ไม่ฉุน 
ล้างหน้าแล้วสดชื่น หน้านี้นุ่มเหมือนตูดเด็กเลย
รู้สึกว่าหน้าสะอาด ล้างแล้วมีความสุขมาก
หน้าหอม หน้านิ่ม หน้าไม่ตึง
ให้ 10/10 เลยค่ะ หมดแล้วซื้อซ้ำ

..............................................


ตัวที่สอง
"Tofu Whitening Sleeping Pack"

ตัวนี้เป็นเป็น Premium Hokkaido เลยนะคะ

ครีมพอกหน้าสูตรเต้าหู้ญี่ปุ่น 
ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มกระจ่างใสในข้ามคืน
เพียงพอกหน้าก่อนนอนเท่านั้น
ด้วยคุณค่าจากสารสกัดจาก...
ถั่วเหลือง คอลลาเจน และวิตามินซี

เมื่อล้างหน้าในตอนเช้าจะรู้สึกได้ถึงความนุ่มเด้ง
ของผิวหน้าอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

ควรใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง



แค่อ่านสรรพคุณก็อยากจะใช้แล้วอ่ะ

พอดูเนื้อผลิตภัณฑ์ยิ่งอยากจะเอามากิน!!



กลิ่นหอมมากกกกกกกก
กลิ่นเหมือนนม ผสมโยเกิร์ต ผสมน้ำผึ้ง
คือหอมนวลๆ หอมน่ากิน 
อยากจะกินยิ่งกว่าทาอีก

เนื้อมันก็หยุ่นๆ เด้งๆ
เนยทาเป็นตัวสุดท้ายก่อนนอน
ตอนแรกมันจะเหนอะๆ หน่อย
แต่พอสักพักก็ซึมลงหน้าหมดเลยนะคะ

ตื่นเช้ามาก็หน้านุ่มเด้งอย่างที่เค้าเคลมไว้จริงๆ นะ
ไม่แพ้ ไม่เป็นสิวด้วย

ชอบขนาดที่ว่าใช้แทบจะวันเว้นวันเลยทีเดียว

ตัวนี้ก็ให้ 10/10 ไปอีกตัวค่ะ 
หมดแล้วซื้อซ้ำแน่นอน


.....................................

ตัวที่สาม
"Tofu Whitening Salt Scrub"

ตัวนี้ใช้สำหรับผิวกายนะคะ
เป็นสครับขัดผิว

สครับเกลือสูตรเต้าหู้ญี่ปุ่น
เกลือเม็ดเล็กขัดผิวกายได้อย่างอ่อนโยน
ขจัดสิ่งสกปรกบนผิว เผยผิวกระจ่างใส
พร้อมบำรุงผิวให้เนียนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
ด้วยสารสกัดจาก...
ถั่วเหลือง คอลลาเจน และวิตามินซี

ทำให้ผิวแลดูกระชับและเปล่งปลั่ง
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายขณะใช้

ควรใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง




ตอนแรกเลยนะ
ประทับใจบรรจุภัณฑ์ รู้สึกว่ามันสวย น่าใช้
แถมยังกระปุกใหญ่อีก ในราคานี้ถือว่าเกินคุ้มมากๆ

พอเปิดกระปุกมา เจอที่ seal ไว้แบบนี้อีก
คือยิ่งประทับใจอ่ะ
เหมือนเราเป็นคนแรกที่เปิด

เปิดออกมาปุ๊ป ได้กลิ่นหอมๆ ก่อนเลยค่ะ
กลิ่นหอมมากๆๆๆ เหมือนขนม 
เหมือนบัตเตอร์เค้ก 
(ทั้งๆ ที่ไม่มีส่วนผสมนี้สักหน่อย)






ชอบกลิ่นมาก อยากจะใช้ทันที
สังเกตุดีๆ จะเห็นเม็ดเกลือเล็กๆ

พอลองใช้เท่านั้นแหละ ติดใจค่า!!
เม็ดสครับมันละเอียดมาก
ละลายง่าย ไม่บาดผิวเลยสักนิด
ถ้าไม่บอกว่าเป็นเกลือจะคิดว่าเป็นน้ำตาล

ขัดเบาก็ได้ ขัดแรงๆ ก็ดี
ใช้เสร็จผิวนุ่มนิ่มไปทั้งตัว 
แถมยังมีกลิ่นหอมติดตัวด้วย
ฟินมากพูดเลยตัวนี้ ต้องลองค่ะ

เนยให้ 10/10 อีกแล้วครับท่าน
หมดแล้วซื้อซ้ำแน่นอน

.......................................

ตัวสุดท้าย
"Tofu Whitening Mask Sheet"

ตัวนี้ ในราคา 60 บาท ได้มาส์กมา 3 แผ่น
โอ้วแม่เจ้า ราคาแผ่นละ 20 บาท!!

เป็นมาส์กที่ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วไม่ต้องล้างออก
ส่วนผสมก็เหมือนทุกๆ ตัวในเซ็ตค่ะ



ตัวนี้เนยไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
รู้สึกว่ามันไม่ค่อยมีน้ำลื่นๆ
รู้สึกมันแห้งๆ ไม่ค่อยมีกลิ่น

เนยชอบอีก 2 ตัวของไดโซะมากกว่าค่ะ
เดี๋ยวจะมารีวิวเฉพาะมาส์กแผ่นอีกทีนะคะ

ตัวนี้เนยให้ 7/10 ละกัน
ยังไม่หยุดที่เธอ


วันนี้มารีวิวแต่เพียงเท่านี้
กระทู้หน้าจะมีอะไร รอติดตามกันน้า

ใครชอบ ใครอยากให้เพื่อนๆ รู้
ว่ามีของดีอะไรแนะนำ

ฝากกด Like & Share ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559

อวด Eye Shadow ของดีราคาถูก ที่สีคับแน่นคุณภาพ จน Naked อาจสั่นสะเทือน!!



สวัสดีค่าาาา
วันนี้อยากจะมาอวดของดีราคาถูก
แต่คุณภาพคับจอ!!

ก็อย่างที่ชื่อบทความบอกนั่นแหละค่ะ
ว่า Naked อาจสะเทือน

เพราะสีมันดีมากกกกก 
เนื้อแน่นมากกกกก
ราคาก็เบามากกกก

พูดมาขนาดนี้ เพื่อนๆ คงอยากรู้แล้วแหละ
ว่าเป็น eyeshadow ยี่ห้ออะไร

แถ่น...แทน...แท๊นนนนน
นั่นก็คือ....

Cutepress
"Twilight Garden"
Eye & Brow Palette 

อยากจะบอกว่าตลับนี้
ได้ฟรีมาจากการไปเล่นเกมที่ jeban.com
ซึ่งแน่นอนว่าเนยไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรอยู่แล้ว
แต่ที่มาทำกระทู้นี่คือ
มันอดไม่ได้ ต้องบอกต้องกล่าว
ว่ามันมีของดีในโลกจริงๆ นะเออ

มาเริ่มกันเลยดีกว่า
เริ่มจาก ตัวแพคเกจ ก่อนเลย

มาในรูปแบบกล่องสีชมพูหวานๆ
ลุคดูดีมากค่ะ น่าใช้







เปิดมาดูด้านในกรี้ดว๊ายตายสลบมาก
คือด้วย "จำนวนสี" ที่มีมากถึง 12 สีแล้ว
"สี" ที่ให้มามันเป็นโทนน้ำตาล ที่เรียบหรูดูดีมาก
มีทั้งสีครีม สีน้ำตาลโทนเข้ม สีน้ำตาลโทนอ่อน

"เนื้อสี" ก็มีทั้งที่เป็นวิ้งค์ๆ กับ เนื้อแมท
คือดีงามพระรามแปดมากอ่ะ

ที่สำคัญมี "กระจก" ให้ด้วยนะตัวเธอ
นี่บางแบรนด์ยังไม่มีให้เลยนะเนี่ย

มี "แปรง" ให้พร้อมเลย ขนก็นุ่มมาก



เค้ามีชื่อสีมาให้ด้วยค่ะ ว่าแต่ละสีชื่อสีอะไร
เดี๋ยวเนยจะซูมสี และ swatch ให้ดูเลยนะคะ




.............................................

มาเริ่มกันที่ 4 สีแรก

เรียงตามลำดับเลยนะคะ


- Capuccino Kiss : สีครีมแมท
- Star Light : สีครีมเนื้อมุก
- Milk Chocolate : สีน้ำตาลชอคโกแลตเนื้อแมท
- Vintage Time : สีน้ำตาลทองเนื้อมุก

แค่ 4 สีแรกนี่ก็เอาใจเนยไปเรียบร้อยละค่า
คือชอบบบบบบ
นี่ปาดทีเดียวติดเลยค่ะ ไม่ต้องย้ำ

set นี้เหมาะสำหรับแต่งเบาๆ ใสๆ 
ไปทำงาน 
เป็น every day look ได้ค่ะ

เนื้อแมทนี่ก็แมทได้ใจ แต่งหน้าสาย ฝ. ได้ปังมาก
ส่วนเนื้อมุกนี่ก็เม็ดกลิตเตอร์ละเอียดมาก
ไม่ได้แบบวิ้งค์เยอะเป็นลิเกค่ะ  ปลี้ม

............................................

4 สีต่อมา


- Warm Gold : สีทอง
- Sunset Glow : สีส้ม
- Evening Lavender : สีม่วงเข้ม
Brown Sugar : สีน้ำตาล



4 สีนี้เนื้อมุกหมด
แต่ปาดออกมาแล้วสวยมาก



ถ้าไปงานกลางคืน
ต้องไปออกงาน แนะนำ 4 สีนี้ค่ะ 
รับรองเกิด


......................................

4 สีสุดท้าย
- Little Romance
- Touch of Sand
- Winter Berry
- Dutch Cocoa



3 สีท้ายเป็นเนื้อแมทหมด
ถ้าชอบแนว Smoky Eye แนะนำเลยค่ะ
set สุดท้ายนี้ ปังมาก



ปาดให้ดูทุกสีเลย
สวยทุกสีจริงๆ ค่ะ





ด้วยความที่ได้มาฟรี
แต่มันใช้ดี
เนยลองแล้วคือมันติดยันนอนอ่ะ
แต่งตั้งแต่เช้า สีไม่ดรอปเลยค่ะ

แต่งตาให้ดูเลยแล้วกัน








เนยเลยไปที่ shop เพื่อถามราคา
ว่าพาเลทเริศเลอขนาดนี้ราคาเท่าไหร่กันนะ

พนักงานตอบมาว่า 
"ราคา 399 บาทค่ะ"

ดีงามมั้ยล่ะคะ
เพื่อนๆ คนไหนชอบสีโทนนี้ ลองไปสอยมานะคะ
แล้วจะชอบเหมือนเนยค่ะ

วันนี้มารีวิวแค่นี้ก่อน
ฝากติดตามรีวิวต่อๆ ไปด้วยนะคร้า

ขอบคุณค่า







วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559

รีวิวเทียวฝรังเศส เมื่อคนตกไอเฟล อยากไปเทียวหอไอเฟล


สวัสดีค่า
หลังจากพาไปดูวิธีชีวิตชาวอินเดียแถบชนบท
กับไปเที่ยวชมทะเลสวยๆ อย่างมัลดีฟมาแล้ว
คราวนี้เนยจะพาไปอีกที่หนึ่ง
ที่หลายๆ คนน่าจะอยากไปกัน

นั่นก็คือประเทศ "ฝรั่งเศส" ค่า

จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาดูค่ะ ^___^

..........................................



ที่แรก ถ้าพูดถึง land mark ของที่นี่
ก็ต้องยกให้ "หอไอเฟล" มาเป็นอันดับแรก
อย่างแน่นอน

ก่อนหน้าทริปนี้
เนยเคยไปหอไอเฟลมาครั้งนึง
แต่ทริปนั้น ไม่มีโปรแกรมขึ้นไปดูวิวบนหอ

ได้แต่ยืนอยู่ห่างๆ แบบห่างมากกๆๆๆๆ
ทริปนี้เลยจะพาเพื่อนๆ ชมวิว
เอาให้จุใจไปเลยค่า


วันนี้อากาศแจ่มใสมาก
ท้องฟ้าปลอดโปร่ง โชคดีจริงๆ ค่ะ
ถ้าเรามาหน้าหนาวกว่านี้ บรรยากาศคงอึมครึม
หรือมีหิมะปกคลุม ก็อาจจะได้อีกอารมณ์




ทริปนี้เราไปกันยกครอบครัวค่ะ
สนุกสนานฮาเฮ




เรื่องสวีทต้องยกให้คู่นี้
ส่วนเราสามพี่น้องก็ขอแชะภาพจากมุมไกลๆ บ้าง
เดี๋ยวเราจะค่อยๆ ขยับเข้าไปนะคะ





หอไอเฟลมีความยิ่งใหญ่อลังการมาก
ถ่ายยังไงก็ไม่สามารถให้เห็นทั้งหมดได้จริงๆ





หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ "สูงที่สุด"
ในฝรั่งเศส 
เป็นอนุสาวรีย์ (แบบเสียค่าเข้าชม)
ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก

ที่นี่จึงกลายเป็น "สัญลักษณ์" สำคัญ
 ของประเทศฝรั่งเศสไปเลยค่ะ

...............................................

ในเมื่อมีความน่าสนใจขนาดนี้
ผู้คนจึงหลั่งไหลกันมามากมายค่ะ




คนเยอะมาก ที่มารอคิวซื้อตั๋วขึ้นหอไอเฟล

แนะนำสำหรับคนที่จะมาที่นี่นะคะ
ให้จอง online ไว้เลยค่ะ
ไม่อย่างนั้นต้องรอคิวนานมากๆๆๆๆๆ




ทริปนี้ รวมค่าตั๋วขึ้นชมวิวบนหอไอเฟลแล้ว
เพราะฉะนั้นเราจะได้ Fast Track 
ไม่ต้องไปต่อคิวเลย 


สำหรับวิธีการขึ้นไปชมวิวบนหอไอเฟล
จะมี 2 วิธีค่ะ
คือเดินขึ้นบันได หรือ ขึ้นลิฟต์ค่ะ
เลือกเอาตามความถนัดเลยนะคะ
แต่เนยขอขึ้นลิฟต์ดีกว่าค่ะ ประหยัดเวลา
และเก็บแรงไว้เที่ยวต่อด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


ตอนลงก็มี 2 วิธีเหมือนกันนะคะ
ห้ามโดดลงไปน้า!!



จริงๆ มันก็โดดไม่ได้หรอกค่ะ
เพราะมันมีตะแกรงเหล็กกั้้นไว้
เผื่อคนที่ขึ้นมาที่สูงแล้วอาจทรงตัวไม่ค่อยดี
กันคนตกลงไป

มาถึงนี่แล้ว ต้องดูวิวที่สูงที่สุดสิเนอะ
จัดไปค่ะ






จุดถ่ายรูปชมวิว จะมี 2 ชั้นนะคะ
รูปนี้ได้จากการขึ้นไปถ่ายที่ชั้นบนสุดค่ะ
วิวสวยมั้ยคะ

เราสามารถเดินรอบบนหอไอเฟล
เพื่อถ่ายรูปมุมต่างๆ ของปารีสได้เลยค่ะ



นี่คืออีกมุมหนึ่ง



จากมุมนี้เราจะเห็นวิวทิวทัศน์ของเมือง
และความสวยงามของ "แม่น้ำแซน"
(Seine River) สวยงามมากๆ เลยค่ะ



ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ความสวยงามของที่นี่มาก

.............................................


จากตรงนี้เราใช้เวลาอยู่ที่นี่สักชั่วโมงนึง
ก็ไป "ล่องเรือชมวิว" จากแม่น้ำแซนด์ค่า

จะเป็นยังไง ตามมาดูเล้ยยย


เป็นเรือขนาดใหญ่นะคะ
จุคนได้หลายร้อยคน
ทุกๆ คนจะนั่งที่ชั้นบน เพื่อชมวิวเมืองปารีส




ชมวิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ จิบโค้กไป
ฟิน!!!



ถ้ามาปารีสแล้วไม่ได้ล่องเรือชมวิว
จากแม่น้ำแซนนี่จะถือว่าพลาดมาก!!

เพราะเราจะได้ชมกับสถานที่สำคัญ
และย่านที่สวยงามของเมืองปารีสจากมุมนี้

ทั้งหอไอเฟล




มหาวิหารต่างๆ 
พิพิธภัณฑ์ และประตูชัย



แนะนำให้มาช่วงเย็นๆ นะคะ
จะได้ชมพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำแซนด้วย






พ่อกับแม่ก็สวีทกันตลอดทริปค่ะ








...................................................

ที่ต่อไป ที่ไม่ไปไม่ได้!!
นั่นก็คือ "พระราชวังแวร์ซายส์"

ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน
จะสวยงามแค่ไหน ตามมาดูเลยค่า


ด้านหน้าพระราชวัง คนก็จะมารอต่อคิวค่ะ




ประตูทางเข้าพระราชวัง



แค่ประตูก็อลังการงานสร้างแล้วค่ะ
ก่อนที่จะเข้าไปชม
เนยอยากให้เพื่อนๆ นึกถึงการ์ตูนเรื่อง
"โฉมงามกับเจ้าชายอสูร"

เพราะการ์ตูนเรื่องนี้ถอดแบบมาจาก
พระราชวังทั้งนั้นเลยค่า
ไม่เชื่อลองมาดูน้า

ใครมาที่นี่ก็ต้อง check in มุมนี้





พาเข้าไปชมด้านในกัน







ภายในพระราชวังจะแบ่งออกเป็นห้องๆ

ห้องบรรทม









ห้องโถง




พระราชวังที่นี่ ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว







ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับตระการตา
และมีภาพเขียนที่งดงามมาก






ภาพเขียนแต่ละห้องจะบอกเล่าเรื่องราว
ไม่ซ้ำกัน













นอกจากภาพเขียนแล้ว
ยังมีรูปปั้น และรูปแกะสลัก
ซึ่งเป็นศิลปะที่งดงามมาก




















ทุกห้องจะมีเครื่องประดับที่เลอค่ามากๆ
เช่นโคมไฟระย้า โคมไฟตั้งพื้น 









หรือแม้กระทั่งนาฬิกาต่างๆ ก็เลอค่ามากเช่นกัน


















และแต่ละห้องก็จะมีพระบรมฉายาลักษณ์
ของเจ้าของห้องนั้นๆ อยู่












ที่นี่มีห้องอยู่เป็นพันๆ ห้อง
แต่เราไม่สามารถเข้าชมได้ทั้งหมดนะคะ
จะได้เฉพาะที่เค้าเปิดให้ชมเท่านั้นค่า







วิวที่มองจากพระราชวังออกมายังด้านนอก






ไม่ว่าจะที่ไหน พ่อกับแม่ก็สวีทกันทุกที่
นี่ภาพแอบถ่ายนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ






พระราชวังนี้สร้างโดยคำสั่งของ
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 
ใช้เงินทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์
ใช้คนงาน 30,000 คน
ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 30 ปี


และเหตุด้วยพระราชวังแห่งนี้
ถูกสร้างขึ้นโดยเงินภาษีของราษฎรชาวฝรั่งเศส
จึงถูกประชาชนเข้ายึด
และจับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 
กับพระนางมารี อองตัวเนต ประหารด้วย "กิโยติน"


หลังจากนั้นพระราชวังก็กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์
และเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้มีอายุ 300 ปีเศษ

.............................................

เนยมีเวลาสำหรับเยือนปารีสแค่เพียงเท่านี้
นับว่าน่าเสียดายจริงๆ
เพราะยังมีอีกหลายสถานที่ให้เราไปนะคะ

ถ้าเพื่อนๆ มีเวลาก็ไปให้ครบนะคะ
แล้วเนยจะหาโอกาสมาใหม่ให้ได้ค่ะ


หวังว่าเพื่อนๆ จะสนุกกับบทความนี้นะคะ
แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าน้า

ฝากกด "ติดตาม" ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่าาาาา

















ผิวโกล์วดูมีออร่าด้วย SKII 3 ตัวนี้เลย

เชื่อว่าสาวไทยหลายๆ คน ต้องการมีผิวที่สวยสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ นั่นก็คือ ปราศจากสิว รอยดำ รอยแดงจากสิว สีผิวสม่ำเสมอ ผิวอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน ดู...