รีวิวผลิตภัณฑ์ Estee Lauder ดีสมคำร่ำลือ

 สวัสดีค่ะ

วันนี้เนยจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ 

ESTEE LAUDER

อันเลื่องชื่อ

ได้ยินชื่อเสียงมานาน

เรื่องสุดยอดเซรั่มกระชับผิว

แต่ด้วยราคาที่แสนแรง

ทำให้ไม่อาจเอื้อมถึง

วันนี้เลยจะมาลองขนาดทดลองก่อน

ลองทั้งทีก็เอาให้ครบเซ็ตเลยละกัน

จะมีตัวไหนบ้าง มาดูค่ะ

ในเซ็ตประกอบด้วย

โฟมล้างหน้า น้ำตบ และเซรั่ม

ขอเริ่มจากโฟมล้างหน้าก่อน

"Estee Lauder Crescent White"

ขนาด 30 มล. ราคา 2xx บาท

คุณสมบัติ :

โฟมล้างหน้าในรูปแบบเอสเซนต์

ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ

ผิวที่เคยหมองคล้ำ กลับเปล่งประกาย

ความรู้สึกหลังใช้ : 

กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบผู้ดีมาก

ฟองโฟมนุ่ม ใช้แล้วฟิน

รู้สึกหน้าสะอาดหมดจด กระจ่างใส

....................................................

มาต่อกันที่น้ำตบนางฟ้า

"Estee Lauder Micro Essence"

ขนาด 15 มล. ราคา 1xx บาท

ตัวนี้เป็นน้ำตบที่ดังมาก

เป็น Must Have ของ Blogger แทบทุกคน

คุณสมบัติ :

เป็นโลชั่น แบบ Micro Essence

ที่ช่วยบำรุงให้ผิวนุ่ม ฟู และแข็งแรงขึ้น

ความรู้สึกหลังใช้ :

กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน

ผิวสัมผัสเป็นน้ำใสๆ เหลวๆ ไม่หนืด

ซึมง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

รู้สึกผิวสดชื่น อิ่มน้ำ

และผิวหน้าใสขึ้น

................................................

ตัวสุดท้ายที่ต้องแนะนำ

เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ของ Estee ที่ขายดีที่สุด!!

ขายดีอันดับ 1 ตลอดกาล

"Estee Lauder Advance Night Repair"

หรือเรียกสั้นๆ ว่า ANR

ขนาด 7 มล. ราคา 3xx บาท

คุณสมบัติ :

เป็นเซรั่มบำรุงผิวยามค่ำคืน

ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างรวดเร็วสู่ผิวใหม่ที่ดูอ่อนเยาว์

(สมชื่อ Night Repair 

ที่ช่วยซ่อมแซมผิวตอนกลางคืนจริงๆ)

เป็นเซรั่ม Anti-Aging

ที่เนื้อบางเบา เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวได้อย่างรวดเร็ว

ลดเลือนริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด

ช่วยให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น

รูขุมขนเล็กลง

ผิวสุขภาพดี เปล่งประกาย ดูอ่อนเยาว์

ความรู้สึกหลังใช้ :

อันดับแรกเลยคือกลิ่นเป็นเอกลักษณ์มาก

ไม่ซ้ำกับใคร

เนื้อเซรั่มเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ

เนื้อค่อนข้างเข้มข้น แต่ซึมง่าย

ตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่อง "กระชับรูขุมขน" 

และ "ช่วยให้ผิวอิ่มฟู" 

ใช้ตอนที่นอนดึกๆ หน้าโทรมๆ

จะกอบกู้ผิวหน้าให้ดูสดใสได้ดีมาก

สรุป...

ปลื้มทุกตัวค่ะ

ให้ 10/10/10 ไปเลย

หาซื้อขนาดจริงมาใช้แน่นอน ฟันธง!!!

รีวิวการเข้าคลินิคเสริมความงาม Be Care Clinic ทำอะไรบ้าง มาดู!!

 สวัสดีค่ะ

วันนี้เนยจะมารีวิว

การเข้าคลินิคเสริมความงาม

เฉพาะที่ Be Care Clinic

ภายใน 1 ปีที่ผ่านมา

ว่าเนยทำอะไรไปบ้าง

ทำที่ไหน ราคาเท่าไหร่

และทำแล้วเป็นยังไง 

เจ็บมั้ย ดีมั้ย แนะนำมั้ย

ตามมาดูกันเลยค่า

...................................................

ก่อนอื่น...ต้องขอบอกก่อนเลยว่า

ก่อนหน้านี้..เนยไม่เคยสนใจ

การเข้าคลินิคเสริมความงามเลย

เพราะ....

1. ไม่มีตังค์

2. คิดว่าไม่จำเป็นและสิ้นเปลือง

3. ยังไม่ถึงเวลา

แต่พออายุขึ้นเลข 3 กว่าๆ

เริ่มรู้สึกว่า ต้องดูแลตัวเองบ้างแล้ว

เลยเริ่มจาก

1. ฉีด Vitamin C บริสุทธิ์

(วิตามินซีล้วนๆ ไม่มีคอลลาเจนและกลูต้า)

เนยเลือกที่ Be Care Clinic 

เลือกเพราะราคาโปรมันโดนใจมาก

นั่งทำใจรอฉีด  เพราะกลัวเข็ม!!

สู้ตายค่ะ ^___^

                        ฉีดเข้าเส้นโดยคุณหมอ

การฉีดวิตามินซีนี้เพื่อให้ผิวใส

ไม่เกี่ยวกับความขาวนะคะ

เป็นการเสริมภูมิคุ้มกัน

และให้ร่างกายได้รับวิตามินซีแบบรวดเร็ว

เนยอยากให้ผิวกระจ่างใส เลยลองก่อนเป็นอันแรก

โปร 990 (1 แถม 1) ว่าถูกแล้ว

เจอโปรนี้ถูกกว่า

จัดสิคะ 1 คอร์ส

...............................................................

ต่อมา

เนยอยากจะแก้ปัญหาของร่างกายตัวเอง

ต้องบอกก่อนว่า เนยมีปัญหา "รักแร้ดำ"

คือดำมาก 

เกิดจากตอนเป็นวัยรุ่นสมัย ม.5 

ที่ขนรักแร้เพิ่งขึ้น 

เนยไปใช้โรลออนยี่ห้อหนึ่ง

แล้วเนยดันแพ้แอลกอฮอล์ 

มันเลยคันมาก

และลอกเป็นแผ่นๆ 

จากนั้นก็ดำปี๋ และใช้อะไรก็ไม่หาย

ไม่ใช้อะไรดับกลิ่นก็ไม่ได้ เพราะมีกลิ่นตัว

ลองมาหมดแล้วทั้งแบบ Stick 

แบบผงแป้ง แบบครีม 

อะไรที่เค้าว่าดีเนยลองหมด

แต่ก็ไม่ขาวขึ้น 

และเป็นคนขนเยอะมาก

มากทุกส่วน เป็นความใฝ่ฝันมานานว่า

อยากทำเลเซอร์ขนร้กแร้ 

คือดำก็ค่อยหาอะไรทาเอา แต่ขนอย่ามี!!

เพราะโกน รักแร้ก็ดำ

ถอน ก็เป็นหนังไก่และขนคุด

ลำบากแท้ผู้หญิง!!

เนยเลยจัดโปร

2. เลเซอร์รักแร้

จาก Be Care Clinic มาอีก 1 โปรค่ะ

คิดว่าเป็นราคาที่ดีมาก

แบบบุฟเฟ่ เดือนละ 1 ครั้ง

ก่อนจะไปดูรูปถัดไป 

แนะนำให้ทำใจก่อนนะคะ

เนยจะให้ดูรักแร้ ก่อนทำ!!

         

  

จะเห็นว่า...มันดำมาก 

และอยู่ไกลๆ ยังเห็นได้ชัดเลยว่ามันเป็นหนังไก่

และเป็นจุดๆ ตอๆ น่าเกลียดมาก!!

  

พอทำเดือนละ 1 ครั้ง

มันก็ค่อยๆ ดีขึ้น

ที่สังเกตุได้อย่างแรกเลยคือ

- ขนใหม่ขึ้นช้าลง

- ขนใหม่บางลงมากๆ

- ไม่เป็นขนคุดอีก

- รักแร้เรียบเนียนขึ้น จับเองยังรู้สึกได้

- หนังไก่ลดลง

- รักแร้นิ่มขึ้น

  

จากรูปซ้าย : จะเห็นว่าจากขนแข็ง กลายเป็นขนอ่อน

จากรูปขวา : รักแร้ดูดีจากรูปแรกมากๆ

.........................................................

กำจัดขนรักแร้อย่างเดียวไม่พอ

คุณหมอบอกว่า พอขนไม่มีแล้ว

ให้แก้ปัญหารักแร้ดำต่อ

เลยแนะนำให้ทำ

3.ทรีทเม้นท์รักแร้ เน้นขาวใส

ราคาครั้งละ 450 บาท

แต่คอร์ส 10 ครั้ง 3,000 บาท

จัดไป 1 โปร!!

ปัจจุบัน ยกแขนอย่างมั่นใจขึ้น!!

..............................................

ต่อมา....ลองมาดูแลหน้ากันบ้าง

เริ่มจาก "Botox" ก่อนเลย

ลองจัดมา 30 ยูนิต ราคา 2,250 บาท

เพราะตัวเองมีปัญหา "ริ้วรอย" บนใบหน้า

ที่เห็นได้ชัด 

 

เพราะเป็นคนชอบทำคิ้วขมวดตลอดเวลา

เลยมีริ้วรอยร่องลึกบริเวณ

"หว่างคิ้ว หน้าผาก" ชัดมาก

ผลลัพท์ที่ได้....

- ขมวดคิ้วมาชนกันไม่ได้

- เลิกหน้าผากไม่ได้

- ยักคิ้วลำบากมาก

หน้าตึงเป๊ะไป 4 เดือน!!!

......................................................

สรุป 

ทำอะไรที่ Be Care Clinic บ้าง?

1. ฉีด Vit C คอร์ส 10 ครั้ง : 3,999

2. เลเซอร์รักแร้ คอร์ส 12 ครั้ง : 4,999

3. ทรีทเม้นท์รักแร้ คอร์ส 10 ครั้ง : 3,000

4. Botox 30 Units : 2,250

รวมค่าเสียหาย 14,248 บาท

แต่!! เนยไม่ได้ทำแค่นี้ค่ะ!!!

นี่แค่คลินิคเดียว

รอชมภาคต่อ

คลินิคต่อไปนะคะ

จัดหนักสุดๆ เลยค่า

รีวิว ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ขายดีอันดับ 1 ของเกาหลี!!

 สวัสดีค่ะ

วันนี้เนยจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมกันบ้าง

เพราะผม ก็สำคัญไม่แพ้ใบหน้านะคะ

คนบางคน หน้าไม่สวย

แต่ผมสวย ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

กลับกัน!!

ถ้าหน้าสวย แต่ผมหยอย ผมเผ้าดูไม่ได้

เป็นสังกะตัง ชี้ฟู แตกปลาย แข็งเป็นไม้กวาด

หน้าสวย ก็ไม่ช่วยอะไรค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

วันนี้เนยเลยจะมารีวิว

ตัวช่วยที่ทำให้ผมเราสวย สุขภาพดี

มีน้ำหนัก ในราคาไม่แพง มาแนะนำกันนะคะ  ^_^

ขอแนะนำ ยี่ห้อ "mise en scene" ค่ะ

ขายดีมากๆๆๆๆ ในเกาหลี ญี่ปุ่น จีน

ขนาด 70 กรัม ราคา 300 บาท

คุณสมบัติ :

เป็นเซรั่มบำรุงผมหลังสระ ชนิดไม่ต้องล้างออก

ใช้ก่อนไดร์ผม จะช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อน

เป็นของเกาหลี จริงๆ มีหลายสี หลายแบบ

แต่เนยใช้ 3 แบบนี้ค่า

มาดูทีละตัวนะคะ 

โด่งดัง เป็นที่รู้จัดที่สุด ก็น่าจะเป็นตัวนี้

มีสารสกัดจากธรรมชาติ Argan oil

    Royal Jelly และ Rose  water

เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม*

ตัวนี้ได้รับรางวัลการันตีมากมาย

เพราะสามารถจัดการกับผมเสีย

ให้ดีขึ้นได้ใน 1 สัปดาห์!!!

ความรู้สึกหลังใช้ :

คือดีย์ และ หอมมาก

หอมเหมือนเพิ่งสระผมเสร็จใหม่ๆ 

หอมกลิ่นดอกไม้  มันสดชื่น

ซึมง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะ

ใช้แล้วรู้สึกว่าไดร์ผมง่ายขึ้น เรียบตรง มีน้ำหนัก

ปลายผมที่แห้งเสียแข็งกระด้าง นุ่มลื่นขึ้น

ผมไม่พันกันด้วยค่ะ ^_^

เหมาะมากๆ กับคนที่ผมเสีย และ แตกปลาย

.............................................

ตัวที่สอง

สูตร "Perfect Serum Water"

ตัวนี้มี Olive Oil, Fruit Oil, Jojoba Oil, Seed Oil

กลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ 

กลิ่นบางกว่าตัวเมื่อกี้

สูตรขวดสีขาว :

ช่วยบำรุงผมที่แห้งเสีย

เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับเส้นผม

ความรู้สึกหลังใช้ :

ชอบขวดสีเหลืองมากกว่า!!

.................................................

ขวดสุดท้าย

สูตร "Rose Edition"

ตัวนี้กลิ่นดอกกุหลาบชัดเจนมาก

กลิ่นอโรม่าจากกุหลาบ

เนยคิดว่าคุณสมบัติทั้ง 3 ตัวเหมือนกัน

ต่างกันแค่ "กลิ่น" ค่ะ

ใครชอบกลิ่นไหน จัดเลยค่า

ให้ดูเนื้อสัมผัส จะเป็นเนื้อ Oil เหลวๆ

ไม่เหนอะหนะ ไม่หนืดค่ะ

สรุป : 

ชอบขวดสีเหลือง Original สุด
ชอบกลิ่น แต่ท้้ง 3 สูตรใช้ดีหมดค่า
ให้ 10/10 ไม่หัก
ราคาก็ดี ไม่แพงเว่อ แถมใช้ดีอีกค่ะ
แนะนำน้า

วันนี้ลาไปก่อนนะคะ 

บ๊าย...บาย ค่า