วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ญี่ปุ่นวันที่สาม ล่องเรือโจรสลัด ชมซากุระ ไหว้พระวัดอาซากุสะ




วันที่สาม....
วันนี้จะไป ล่องเรือโจรสลัด 
ที่ทะเลสาบอาชิ





บรรยากาศวันนี้อึมครึมมากกก
ฝนตกตลอด



ต้องเดินผ่านสายฝนไปขึ้นเรือ






ลมแรงมาก จนร่มงออย่างที่เห็น 
พังหมด!!




ทะเลสาบอาชิ เป็นทะเลสาบที่ก่อตัวจากลาวา
ของภูเขาไฟฟูจิ




ถึงแล้ว!!! เรือโจรสลัด




เสียดายมากที่วันนี้ฝนตกหนัก
เลยอดถ่ายรูปวิวสวยๆ ด้านนอก
ของทะเลสาบที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังมาให้ดู




ถ่ายบรรยากาศในเรือไปก่อนละกันค่ะ
คนก็จะแน่นๆ หน่อย





ล่องเรือเสร็จใช้เวลาประมาณ 20 นาที

แต่ถ้าไปตอนฝนไม่ตก เราก็จะได้บรรยากาศแบบนี้ค่า



เราก็มาต่อกันด้วย 

ไปเดินชม ซากุระ  
แม่ะ มาถึงญี่ปุ่นทั้งที ถ้าไม่ได้ชมดอกซากุระ
ก็เหมือนมาไม่ถึงอ่ะเนอะ







โชคดีว่าฝนหยุดตกแล้ว เราเลยเอากล้องออกมาถ่ายรูปได้
ย่านที่มานี่มีซากุระเรียงเป็นแนวยาวๆ 
สวยงามมาก เป็นสีชมพูตลอดทาง










ที่นี่...จะเป็นสถานที่ๆ คนญี่ปุ่นเค้าออกมาปิกนิกกัน
มากินข้าว มาเจอกัน สังสรรค์ เฮฮา



เอาเสื่อมานั่งปู แล้วก็กินข้าวกัน
บ้านเราไม่มีให้เห็นเลยเนอะแบบนี้

เพราะอากาศบ้านเรามันร้อน
ถ้ามานั่งแบบนี้มีหวังเกรียมแน่ๆ


 และคนญี่ปุ่นเค้าก็อนุรักษ์ชุด กิโมโน  
เราจะเห็นบางคนเค้าใส่กันเดินไปมา
เป็นเรื่องปกติ

ลองนึกถึงบ้านเรา
ถ้ามีคนแต่งชุดไทย ใส่สไบ จุงกระเบน
เดินไปเดินมา คนคงมอง หาว่าบ้า!!








หลังจากเสร็จไปสองภารกิจ
ก็ถึงช่วงเวลาที่เนยรอคอย

นั่นก็คือ ช่วงพักกลางวัน นั่นเอง ฮ่าๆๆๆๆ
วันนี้จะกินเมนูอะไรน้าาาา

มาถึงร้าน เราก็เจอกับตู้นี่
มันคือตู้ล้อกเกอร์ใส่รองเท้าค่ะ



ต้องถอดรองเท้าให้เรียบร้อย 
แล้วก็มานั่งประจำที่




เมนูวันนี้เป็นคล้ายๆ สุกี้
น้ำต้มมันหวานอร่อยมากกก




ทุกคนจะได้ข้าวคนละถ้วย (ที่เติมได้ตลอด)
ผักสลัด ลูกเขียวๆ นั่นตอนแรกนึกว่ามะนาว
ที่ไหนได้มันคือ โมจิค่ะ
เป็นขนมปิดท้าย




อิ่มกันไปเลย

ต่อไปก็จะไป มหานครโตเกียว
เพื่อนมัสการเจ้าแม่กวนอิมทองคำ 

ณ วัดอาซากุสะ  





วัดอาซากุสะนี้ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์
และได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว





ภายในวัดประดิษฐาน "องค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ"
ซึ่งมักจะมีผู้คนมากราบไหว้ขอพร
เพื่อเป็นสิริมงคล ตลอดทั้งปี









และยังเป็นที่ตั้งของ โคมไฟยักษ์ 
ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสูง 4.5 เมตร
แขวนห้อยอยู่ ณ ประตูทางเข้าหน้าวัด









คนมาสักการะเยอะมาก


ต่อมาก็มาเดินเที่ยว ถนนนากามิเซะ
เป็นที่ตั้งของร้านค้าขายของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ มากมาย



มีขนมนานาชนิด ของเล่น พวงกุญแจที่ระลึก

แต่สิ่งที่เนยสนใจมากที่สุดคือ ขนม ขนม และ ขนม
เหล่าของกินทั้งหลาย นั่นเอง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ


อันนี้ซื้อเพราะรูปร่างหน้าตาน่ากิน
นึกถึงกล้วยหอมจอมซน 

มันคือกล้วยเคลือบด้วยกลิ่นกล้วย
และวิปครีม อร่อยมากอ่ะ




สตรอเบอรี่เสียบไม้



โอ้ย มีแต่อะไรๆ น่ากินไปหมด
เดินดูแต่ของกิน ของฝาก ของที่ระลึกไม่ดูเลยค่ะ



อันนี้หน้าตาเหมือนมาชแมโลว์ 
แต่พุงกางแล้วอ่ะ เลยไม่ได้ซื้อกิน




 ไหว้พระเสร็จก็ได้เวลา ช้อปปิ้ง!!!
เราจะไปช้อปกันที่ย่าน ชินจุกุ







มีสินค้ามากมาย เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า 
ของแบรนด์เนม

เครื่องสำอางดังของญี่ปุ่น เช่น
KOSE, Kanebo, SK II, SHiSEDO

เครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูป นาฬิกา เกมส์

เดินจนเหนื่อยและเมื่อยมากๆ
ก็ขอเติมพลังด้วยไอติม!!

น้ำหนักขึ้นมากี่โลละวะเนี่ย!!


ช้อปปิ้งจนมืดก็ได้เวลากลับโรงแรม

พักผ่อน เพื่อลุยดิสนีย์แลนด์ต่อในวันพรุ่งนี้

จะสนุกแค่ไหน รอติดตามน้า




วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ญี่ปุ่นวันที่สอง อย่ามองเหมือนบ้านฉันเป็นมาเฟีย ฮ่าๆๆๆๆๆ




มาต่อกันที่....
เที่ยวญี่ปุ่น วันที่สอง
วันนี้ต้องย้ายโรงแรม ไปๆ ลากกระเป๋าขึ้นรถกัน




วันนี้เราจะไป  ทะเลสาบคาวากูจิโกะ
(Lake Kawaguchiko)

ทะเลสาบที่เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง


ระหว่างทางก็ชมวิวสวยๆ ไป


ถึงแล้วก็ซื้อตั๋ว เพื่อ  ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า คาชิ คาชิ
(Kachi Kachi Ropeway)




ขึ้นกระเช้าแล้ววววว







ค่อยๆ ไต่ระดับความสูงมากขึ้นเรื่อยๆ
เราจะเห็นวิวทะเลสาบสวยมากๆ ค่ะ



กระเช้านี้จะพาเราไปบนยอดเขา mitsutoge 
(อ่านว่าไรไม่รู้)

เพื่อชมความสวยงามของทะเลสาบคาวากูจิโกะจากมุมสูง



ขึ้นมาถึงแล้ว 
เราจะได้ชมวิววแบบพาโนรามาที่ความสูง 1,075 เมตร

เธอเห็นข้างหลังชั้นไหม 
นั่นไงน้องฟูจี





เหมือนวันนี้จะมีเมฆมาก
น้องฟูจีโดนเมฆปกคลุม





อยากเห็นชัดๆ เลยต้องพึ่งพาตัวช่วยค่ะ





และก็ไม่มีเวลาไหนที่เนยรอคอยเท่า
เวลากิน!!

เย้ๆ ได้เวลาพักทานอาหารกลางวันแล้วววววว






เมนูวันนี้มาแบบแต่ละถ้วย แต่ละจาน
น่ารักประดิษฐ์ประดอย ละเมียดละไม หอยสังข์มาก

ดูไปดูมา มันก็จะคล้ายๆ 
ถ้วยใส่อาหารที่เราคนไทยชอบทำถวายศาลพระภูมิ



อันนี้อีกร้านนึง ที่เคยไปกิน
เป็นร้านสไตล์ปิ้งย่าง




โอ้ย ญี่ปุ่นมันมีแต่ของกินอร่อยๆ ทั้งน้าน
แปลกใจว่าทำไมคนญี่ปุ่นไม่อ้วน

แค่กรูมาไม่กี่วัน น้ำหนักกรุขึ้นไมรู้กี่โลละเนี่ย






ภาพตอนปิ้งเสร็จไม่ทันถ่ายรูปนะคะ
ตกไปอยู่ในท้องหมดละ!!


กินข้าวเสร็จก็ไปเดินย่อย ซื้อขนม ซื้อของฝาก






คนแน่นร้านเลยค่ะ




ขนมของญี่ปุ่นก็ขึ้นชื่อเรื่องความน่ารักคิขุอยู่แล้ว






สักพักปวดฉี่ เลยไปเข้าห้องน้ำ
ก็เจอกับป้ายนี่เข้า!!

แปะอยู่ที่ประตูห้องน้ำ
คือแบบ รู้เลยว่า แปลมาจาก Google ชัวร์ๆ

ลองอ่านภาษาไทยดูนะคะ
ใครอ่านแล้วไม่งง เข้าใจทันที
มาเอารางวัลเลยค่ะ 

นี่อ่านสามสี่รอบ จับใจความไม่ได้ แว้กกกกก


สถานที่ต่อไปคือ.....
'พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว'


จำลองเรื่องราวของภูเขาไฟฟูจิ และให้เราได้สัมผัสกับ
เหตุการณ์แผ่นดินไหวจำลอง



เค้าจะให้เรานั่งอยู่ในบ้านจำลอง
แล้วเกิดแผ่นดินไหว ไล่ระดับตามริกเตอร์
จากเบาๆ ไปหนักๆ

ตอนไหวหนักๆ นี่น่ากลัวมากกก
ขนาดรู้ว่าเป็นสถานการณ์จำลองเรายังกลัวเลย

เพราะบ้านเรามันไม่ค่อยเกิด เราเลยไม่ชิน
แต่คนญี่ปุ่นเค้าพร้อมรับมือค่า

ออกมาก็จะเจอกับดัก
นั่นคือ ร้านขายของที่ระลึก 
ถ้าจะออกไปข้างนอก ยังไงก็ต้องผ่าน
และต้องซื้อของติดไม้ติดมือแน่นอน  เค้าฉลาดเนอะ



ต่อด้วยไปชม "ภูเขาไฟฟูจิ"
ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,776 เมตร

ภูเขาที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเรื่องความสวยงาม
ถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศญี่ปุ่นด้วย

วันนี้เป้าหมายเราคือ ขึ้นชั้นที่ 5 ของภูเขาไฟฟูจิ
อากาศชั้นแรกที่ตีนเขา ดูปลอดโปร่งดี
นักท่องเที่ยวหนาแน่นอีกเช่นเคย




แต่ปรากกฏว่า ขึ้นชั้น 5 ไม่ได้ค่ะ
เพราะด้านบนหิมะตก!!!

ถนนเต็มไปด้วยหิมะ
รถไม่สามารถขับได้ เดี๋ยวจะลื่น เกิดอุบัติเหตุ



ก็เลยได้แต่มองเธอข้างเดียวอยู่ที่มุมนี้





มาได้แค่ First Step



แต่เนยเคยไปตอนฤดูใบไม้ร่วง
จะได้บรรยากาศแบบนี้ค่า










สวยกันไปคนละแบบ


ต่อด้วย.....
ไป หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก
(Oshino Hakkai)

เป็นจดท่องเที่ยวที่สร้างเป็นหมู่บ้านเล็กๆ








ในหมู่บ้านนี้มีบ่อน้ำทั้งหมด 8 บ่อ
ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากุจิโกะ กับ ทะเลสาบยามานาคาโกะ






บ่อน้ำทั้ง 8 นี้เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายในช่วงฤดูร้อน
ที่ไหลมาจากทางลาดใกล้ๆ ภูเขาไฟฟูจิ
ผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนอายุ 80 ปี!!
ทำให้น้ำสะอาดใสเป็นพิเศษ






สะอาดแค่ไหน เดี๋ยวเนยถ่ายให้ดูค่ะ
เนยยังตะลึงไม่หาย อะไรจะใสเหมือนแก้ว
เหมือนกระจกขนาดน้านนนนนน


เค้าบอกว่า มาแล้วต้องดื่มค่ะ
น้ำที่กรองมาใสขนาดนี้ ดีต่อสุขภาพ



เนี่ย ที่บอกว่าใสอ่ะ
คือบ่อนี้ลึก 8 เมตร
แต่เนยสามารถมองเห็นถึงก้นบ่อได้เลย
ว่ามีต้นไม้อะไรใต้น้ำบ้าง มีหินกี่ก้อน
มีปลากี่ตัว คือมันใสจนมองเห็นก้นบ่อ



แต่กล้องทำได้แค่นี้จริงๆ
ต้องไปดูด้วยตาตัวเองค่ะ

ที่นี่ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกมากมาย
ขายขนม ผัก ขนมหวาน ผักดอง งานฝีมือ
ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น 

ซื้อหน้ากากไปฝากแมวดีกว่า
ช่วงนี้รายการ The Mask Singer กำลังดัง



หวานหมูเนยเลยสิคะ
รออะไรล่ะ ตระเวนแดกด่วน!!!


เริ่มจาก ขนมไรไม่รู้ 
คล้ายๆ โมจิชาเขียวย่าง ไส้ถั่วแดง
คืออร่อยมากกกก
หวานๆ หนึบๆ หอมๆ โอ้ยฟิน






ต่อด้วยไอติม!!
โอ้ยยยย น่ากินทั้งนั้นเลยย




ของทอดก็มี ชิมให้หมด!!




สตรอเบอรี่ก็มา 
มา 2 สีเลยนะจ๊ะ




สีขาวอมชมพูน่ากินมาก


ถ้าอยากจัดหนัก ก็นั่งกินที่ร้านกันไปเลยค่ะ



วันนี้ตะลุยเที่ยวทั้งวัน
เราคงมาจบกันที่นี่ละค่ะ

เงินในกระเป๋าก็ใกล้จะจบแล้วเหมือนกัน
นี่แค่วันที่สองเองนะ กรี้ดดดดด

โกเทมบะ Factory Outlet

มันมีแบรนด์เยอะมาก ถ้าให้สาธยายคงไม่หมด
เอาเป็นว่า แหล่งรวมของแบรนด์เนมเลยละกัน

ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกาหรู เครื่องประดับ





ได้มาพอหอมปากหอมคอ



เดินตัวปลิวกลับโรงแรมค่ะ



มาถึงโรงแรมก็หิวอีกแล้ววววววว
มาทริปนี้รับรอง
กลับไปไม่ต้องชั่งน้ำหนัก สงสัยหนักเพิ่มขึ้น
ประมาณ  10 โล


ที่โรงแรมวันนี้ต้อนรับด้วย
"บุฟเฟต์ขาปูยักษ์"

กินได้ไม่อั้นเลยค่าาาา
มาดูว่าเนยจะฟินขนาดไหน





เวลากิน แม่บอกว่าไม่ต้องห่วงสวยค่ะ
สวยเดี๋ยวไม่อิ่ม!! กร้ากกกก



ด้วยความที่เมื่อยล้ามาทั้งวัน
คืนนี้เราก็เลยขอผ่อนคลายกัน

ด้วยการ แช่น้ำร้อนออนเซนธรรมชาติ ที่โรงแรมค่ะ



เค้าบอกว่าถ้าเราได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงาม
และช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้นด้วยค่ะ

แต่คงไม่ได้ถ่ายรุปมาให้ดูนะคะ โป้ค่ะ



จบทริปวันที่สอง

วันที่สามจะไปไหนต่อ รอติดตามนะคร้าาาาาา

ผิวโกล์วดูมีออร่าด้วย SKII 3 ตัวนี้เลย

เชื่อว่าสาวไทยหลายๆ คน ต้องการมีผิวที่สวยสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ นั่นก็คือ ปราศจากสิว รอยดำ รอยแดงจากสิว สีผิวสม่ำเสมอ ผิวอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน ดู...