9 ที่เที่ยวเชียงราย ไม่ไป ไม่ได้!!

สวัสดีค่า 

วันนี้จะมาพาเที่ยว "เชียงราย" นะคร้าาาา

ที่แรกที่จะพาไปเที่ยวที่เชียงราย

เอาฤกษ์เอาชัย 

ประเดิมด้วยสิริมงคล

ก็ต้องมาที่นี่เลยค่ะ

Land Mark ของเชียงราย

นั่่นก็คือ...
   1. " วัดร่องขุ่น " หรือ "วัดขาว " ค่า   

ที่นี่คนไทยเข้าชมฟรี!!

แต่ชาวต่างชาติเสียค่าเข้าชม 50 บาทค่ะ

เมื่อเข้าไปแล้วทุกท่านจะได้พบกับ

ผู้ที่ออกแบบและสร้างที่นี่

นั่นก็คือ อาจารย์เฉลิมชัย 

เป็นเพียงป้ายขนาดเท่าคนจริงนะคะ

แต่เหมือนมาก ฮ่าๆๆๆ

ด้านนอกโอบล้อมไปด้วยน้ำ

ดูสงบ ร่มเย็น

มีป้ายห้ามคนเมาสุราเข้านะคะ

ขนาดป้ายเตือน ยังไม่ธรรมดา

กระถางใส่ต้นไม้ ก็ไม่ธรรมดา

แต่ละสิ่งที่สร้างขึ้น ล้วนวิจิตรงดงาม

เดี๋ยวจะพาเที่ยวชมให้รอบๆ วัดนะคะ

ตลอดทางเดินเข้าวัด

จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของบาปบุญคุณโทษ

อันนี้สื่อถึงว่าความทรมาน

จากการอดอยาก และ ขอส่วนบุญ

อยากออกไปจากตรงนี้

เห็นเค้าโยนเศษเหรียญกันลงไป

เลยเอาบ้างค่ะ

เดินตามทางเดินเรื่อยๆ

แต่ก่อนจะเข้าภายในตัววัด

เค้าให้ถอดรองเท้าก่อนเข้าค่ะ

มีถุงพลาสติกเตรียมไว้ให้เรียบร้อย

ให้เราหิ้วเข้าไป

เมื่อเข้าไปด้านใน 

ห้ามถ่ายรูปค่ะ เลยไม่มีรูปมาให้ชม

ถ่ายมาได้แต่ภาพด้านนอก

คนเยอะมาก ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

ให้ดูความสวยงาม

หนึ่งเดียวในประเทศไทย

ที่เป็นงานศิลปะสีขาวล้วน

มาเที่ยวชม และ ช่วยกันอนุรักษ์

ศิลปะที่งดงามนี้ให้อยู่คู่กับเราไปนานๆ นะคะ

ที่ๆ สองที่จะพาไปเสริมสิริมงคลคือ

  2. " วัดห้วยปลากั้ง "  

วัดนี้จุดเด่นคือ "เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่สุด"

ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา

เดี่ยวจะพาชมด้านในวิหารนะคะ

บรรไดทางขึ้นมีพญานาค สวยงามมาก

เมื่อเข้าไปด้านในจะพบกับ

เจ้าแม่กวนอิมไม้แกะสลัก

วิหารนี้มีหลายชั้นมากๆ

เราสามารถขึ้นบันไดไปจนสุดได้

แต่ละชั้นจะมีเทพต่างๆ ให้เราได้กราบไหว้บูชา

ด้านนอก จะเป็นที่แสดงวัดที่เราควร

ไปกราบไหว้บูชาตามปีเกิด

ใครที่ยังไม่เคยมา

ต้องมาให้ได้นะคะ

เชียงรายเนี่ย ครบทั้งหยินและหยางเลยนะคะ

เพราะนอกจากจะมี วัดขาวแล้ว

ยังมี .....

   3. "บ้านดำ"   

ของ อ.ถวัลย์ ดัชนี อีก

ไหนๆ ก็มาเชียงรายแล้ว

ต้องเอาให้ครบนะคะ

ที่นี่เสียค่าเข้าคนละ 80 บาทค่ะ

ด้านในจะเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์

ที่เอาไว้เก็บของสะสมของ อ.ถวัลย์

อย่างเช่น งูสตาฟ จระเข้สตาฟ

บรรดาเขาสัตว์ 

จะมีเรือนหลายหลังมาก

แต่ละหลังก็จะแสดงของสะสมแตกต่างกันไป

รูปทรงของแต่ละหลัง ก็จะไม่เหมือนกันด้วย

ส่วนใหญ่จะให้ชมได้

แต่ห้ามถ่ายรูป เนยเลยได้แต่ถ่ายบรรยากาศ

ภายนอกมาให้ดูนะคะ

อันนี้จำลองเหมือนบ้านคนสมัยโบราณ

ใครยังไม่เคยมา

อย่าพลาดนะคะ 

มาดูศิลปะที่ไม่เหมือนใคร จากศิลปินระดับชาติ

แดดร้อน เดินจนเหงื่อแตก

ด้านหน้ามีร้านกาแฟให้ไปนั่งตากแอร์เย็นๆ ค่ะ

และแล้วก็ได้เวลากินข้าว

วันนี้เนยจะพาไปกินอาหารอร่อยๆ

บรรยากาศดีๆ ที่ 

  4. " ไร่ชาฉุยฟง " ค่า  

เราจะมาทานอาหารกันที่ร้านนี้

ร้านที่ล้อมรอบด้วยไร่ชาเขียวขจี

อื้อหือ วิวดีจริงๆ

อาหารที่นี่อร่อยหลายอย่าง

สั่งแล้ว รอสัญญาณเรียกได้เลย

แต่ละเมนูน่ากินๆ ทั้งนั้น

นี่ขนมจีบ เอ๊ะ!! แล้วทำไมเธอไม่จีบล่ะ?

สลัดยำทูน่า

ปีกไก่ซอสแดง

ปอเปี๊ยะทอด น้ำจิ้มเด็ด

ของหวานของที่นี่

ก็แน่นอนแหละว่าต้องเป็นเค้กชาเขียว

โรลชาเขียว

เครื่องดื่มก็ต้องเป็นชาเขียว!!!

มาลองชิมกันได้ อร่อยทุกอย่างจริงๆ

กินอิ่มแล้ว ออกไปถ่ายรูปได้!!

มานั่งชมวิวเขียวๆ บรรยากาศดีๆ

ลมพัดเย็นๆ

ออกไปสูดกลิ่นชาให้เต็มปอด

ระวังคนข้างหลังขโมยซีนด้วย

ไปแอบถ่ายคนอื่นเค้าโพสต์ท่าถ่ายรูป

และที่พลาดไม่ได้เลยคือ

สะพายกระบุงเก็บชา แล้วถ่ายรูปสวยๆ

แอคว่าเราเป็นคนเก็บชาจริงๆ

ทั้งๆ ที่หน้าไม่ให้ก็ตาม

ใครที่ชอบชงชาดื่ม อย่าลืมซื้อจากที่นี่

ติดไม้ติดมือกลับบ้านกันนะคะ

อิ่มเอมจากไร่ชา เราก็ไปต่อกันที่

   5. " ดอยตุง "   

ที่นี่ก็จะมีพระตำหนัก และ ทุ่งดอกไม้ให้ชม

แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคือ ต้องมากินไอติมที่นี่

แล้วก็ไปชมวิวที่จุดชมวิว

เราจะเห็นวิวเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอก

สดชื่น สวยงามมมมม

ซอฟท์ๆ ผ่านไปแล้ว

ต่อมาจะพาไปสายลุยๆ บ้างนะคะ

แนะนำว่าต้องมาที่นี่เลย

  6. " Singha Park "   

มาปลุกความเป็นสิงห์ในตัวคุณ!!

มาที่นี่ ก็ต้องมา Check in ที่สิงห์ยักษ์ตัวนี้ก่อน

ที่นี่กว้างมาก ถ้าอยากเที่ยวให้รอบ

แนะนำให้เช่าจักรยานขี่

ปั่นมาจุดแรก ที่หน้าผาไลอ้อนคิง

ปล.เค้าไม่ได้เรียกแบบนี้หรอก แต่มันเหมือน ฮ่าๆๆ

เห็นมีโบว์ผูกไว้เต็มเลย ไม่รู้ว่ามีความหมายอะไร

บนนี้เราจะได้เห็นวิวไร่ชาทั้งหมด

ก่อนจะออกเดินทาง กางแผนที่ดูก่อน

ล็อคเป้าหมายแล้ว ลุยเลย

ขอประเดิมด้วย อันที่หวาดเสียวที่สุดก่อน

มันคือ Zip Line ค่ะ

เห็นหอสูงๆ นั่นไหม

เราต้องโดดจากจุดนั้น กรี้ดดดดด!!

ยิ่งไปใกล้ๆ ใจยิ่งสั่น

จะไหวมั้ยกู

แต่ตัดสินใจแล้ว

จะมาเปลี่ยนกลางคันไม่ได้ เอาวะ ลุย!!

รีบตรงไปที่จุดซื้อตั่๋ว

ค่าเล่นคนละ 300 บาท

ใส่ชุด Safety ให้พร้อม

แล้วเดินไปขึ้นตึกที่เห็นเมื่อกี้

กว่าจะขึ้นมาถึง เล่นเอาหอบ

หัวใจเต้นรัวๆ

สูงเหมือนกันนะเนี่ย ขาเริ่มสั่น

เล่นแล้วเป็นไง มาดูคลิปกันเลยค่า

ลงมานี่ถึงกับกินน้ำ คือคอแห้ง

กรี้ดแตก

นั่งพัก แปปนึง พร้อมลุยต่อ

ที่นี่บรรยากาศดีมาก

มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม

ให้กินชมบรรยากาศ

มีที่ Check in แห่งใหม่

คือร้านเครื่องดื่ม ที่เอาเครื่องบิน

มาเป็นส่วนหนึ่งของร้าน

แหม่...เท่ซะไม่มี

นั่งจิบเครื่องดื่มไป ชมวิวไป

ฟิน!!!!

ถ้าเบื่อเครื่องดื่มชาเขียว

มาลองไอติมชาเขียวแทนก็ได้

อุดหนุนเค้าแล้ว

ก็ไปถ่ายรูปต่อ

อ้าวเห้ย!!! เห็นมุมนี้ 

เพิ่งรู้ว่าเป็นเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์

จากมุมนี้ เราก็จะได้วิวตึกที่เราโรยตัวลงมา

ที่นี่มีของที่ระลึกขาย

ต่อจากนั้นก็เดินเที่ยวชมรอบๆ ไร่สิงห์

มีคอกม้า

แต่เนยไม่เห็นม้าสักตัว

มีให้อาหารยีราฟ

ชมวิถีเกษตร

อยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้า ยันบ่าย

จะอยู่ถึงเย็นเลยก็ได้

เพราะที่นี่มีเบียร์ 0% Alcohol 

นี่ไงๆ บอกแล้วมีจริงๆ

จัดไป 1 แก้วเล็กๆ

ทานคู่กับ PIZZA

เห็นแล้วหิวเลย อยากกินอีก

PIZZA อร่อยมากอ่ะ

แป้งบางกรอบ แต่หน้ามาเต็ม ชีสเยิ้มๆ เลย

สำหรับใครที่อยากไปลองทาน

โทรสอบถามล่วงหน้าได้นะคะ

ที่กินไปนั้น ก็ไม่แพงอย่างที่คิด

เบียร์สดแก้วยักษ์นั้น 100 เดียวเอง

อิ่มแล้วก็มาต่อกันด้วยแว้บกลับเข้ามาในเมือง

ไป   7. " ไนท์บาซ่า "   กัน

ที่นี่จะเน้นขายของพื้นเมือง

ของที่ละรึก ของกิน

ห้ามพลาด บัวลอยไข่หวานเด็ดขาด มันเด็ดมาก

ต่อด้วย มาดู
  8. "หอนาฬิกา เชียงราย"  

เค้าบอกว่าเป็นหอนาฬิกาที่สวยที่สุดในโลก

ออกแบบโดย อ. เฉลิมชัย 

ปิดท้ายกันที่ร้านนี้เลย

แค่เดินข้ามฝั่งหอนาฬิกาเท่านั้น

   9. ร้าน "เชียงรายลำรึก "  

ถ้าไม่มาก็เหมือนมาไม่ถึง

อาหารอร่อย เครื่องดื่มเพียบ

ดนตรีเพราะ นั่งชมบรรยากาศเมืองเชียงรายชิวๆ

ฟินไปเลยค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ

แนะนำที่ๆ ต้องมา ถ้ามาเชียงราย

นอกเหนือจาก 9 ที่นี้ ยังมีอีกมากมายนะคะ

ไว้เนยไปเที่ยว แล้วจะมารีวิวให้ดูน้า

วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่าาาาา