เนยเคยเที่่ยวเยอรมัน 2 ครั้ง
เมืองที่่ไปมาทั้งหมดจะมี
- Nuremburg
- Bamburg
- Frankfurt
- Munich
มาเริ่มกันที่เมืองแรกเลยละกันเนอะ
วันนี้เที่ยวนูเรมเบิร์ก Nuremburg*1
ประเทศเยอรมัน
เป็นเมืองสุดแสนโรแมนติก
เป็นเมืองแห่งปราสาทและเทพนิยาย
เราจะได้ชมเมืองเก่าที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1050
ยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ
เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ไฟสงครามในแคว้นบาวาเรีย
ซึ่งเคยถูกทิ้งระเบิดโจมตีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่ตอนนี้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม
เพราะชาวเมืองช่วยกันบูรณะฟื้นฟู
เมืองแห่งประวัติศาสตร์ให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว
แต่ยังคงมีร่องรอยของอาคาร ทางเดิน แบบชาวโรมันให้เห็นอยู่
ส่วนใหญ่จะมาจากเรื่องในนิยาย
รถหรูจะมีขับเหมือนรถธรรมดาทั่วๆ ไป
จริงๆ ที่นี่รถไม่แพงนะคะ
แต่พอเข้าไทยเท่านั้นแหละ!!
ยุโรปนี่ชอบมีรูปปั้นแปลก อยู่เต็มไปหมด
ส่วนใหญ่จะมาจากเรื่องในนิยาย
รถหรูจะมีขับเหมือนรถธรรมดาทั่วๆ ไป
จริงๆ ที่นี่รถไม่แพงนะคะ
แต่พอเข้าไทยเท่านั้นแหละ!!
นอกจากตึก อาคาร ของที่นี่จะใหญ่โตแล้ว
ฟักทองก็ใหญ่ไม่แพ้กัน
ตกแต่งร้านอาหารได้เก๋ดีค่ะ
ถ้าเป็นตัวจริง เนยคงวิ่งป่าราบ
ตกแต่งร้านขนาดนี้
อาหารจะขนาดไหน เมนูวันนี้เราจะกินอะไร
มาดูค่ะ
อื้อหือ... มันคือซุปมะเขือเทศ
มาถึงเยอรมัน ก็ต้องกิน "ขาหมูเยอรมัน " สิเนอะ
ออกจากเมือง Nuremburg
ก็ออกเดินทางสู่เมือง Bamberg *2 ค่ะ
เมืองนี้ได้รับการขั้นทะเบียนจาก UNESCO
ให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกเมืองหนึ่ง
จุดที่เราขึ้นมาชมวิว คือมันสูงมาก
เป็น 1 ในไม่กี่เมืองในเยอรมันนีที่รอดพ้น
จากการถูกบอมบ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ตึกรามบ้านช่องของที่นี่จึง ''เก่าจริง''
ไม่ได้มีการสร้างหรือซ่อมแซมใหม่ให้ดูเหมือนเก่า
ชมวิหารแบมเบิร์ก
หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า
"มหาวิหารแบมเบิร์ก เซนต์ปีเตอร์ และเซนต์จอร์จ"
(Bamburg Dom St. Peter and St. Geoge)
สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสก์
สร้างครั้งแรกในปี ค.ศ. 1004
โดยจักรพรรดิเฮนรีที่สอง
ต่อด้วยไป Frankfurt *3
ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเยอรมันนี
เที่ยวชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerburg)
เป็นจตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง
มาถึงยุโรปทั้งที ต้องเข้าเฝ้าเทพเจ้าหลุยส์
เดินจนเหนื่อยก็ไปหาของกิน
ของคาวแล้วก็ต่อด้วยของหวาน
ปิดท้ายด้วยชอคโกแลต
ชอคโกแลตร้านอร่อยต้องร้านใกล้ๆ
น้ำพุเด็กยืนฉี่อันนี้ค่ะ
อีกเมืองที่่เนยเคยไปคือ Munich *4
ผ่านชม The Frauenkiche โบสถ์พระแม่มารีทรงหัวหอมคู่
สร้างด้วยอิฐสีแดงสูง 99 เมตร
เป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิวนิค
ตัวโบสถ์สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1468
แต่ถูกทำลายในสงครามโลกครั้งที่ 2
และได้รับการบูรณะในปี ค.ศ.1953
จากนั้นผ่านชมจตุรัสมาเรียนพลัทซ์ Marienplatz
ที่อยู่กลางใจเมืองนครมิวนิค
ถือเป็น ''หัวใจ '' ของเขตเมืองเก่าเลยค่ะ
เป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมเมืองในยุคกลาง
เป็นศูนย์กลาบการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรม
มีจุดเด่นอยู่ที่ "หอระฆัง" ที่จะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ
ในเวลา 11 โมงเช้าในหน้าหนาว และ
5 โมงเย็นในหน้าร้อน
ต่อจากนั้นเราก็จะไปปราสาท
นอยชวานสไตล์ Neuschwanstein Castle
ซึ่งเป็นปราสาทที่โรแมนติกดังเทพนิยาย
ปราสาทนี้แหละที่วอลซ์ ดิสนีย์
ได้จำองแบบไปสร้างเป็นปราสาทไว้ในดิสดีย์แลนด์
ทุกแห่งทั่วโลก
จากอีกมุมหนึ่งก็สวยไม่แพ้กัน
ในฤดูหนาว จะเป็นแบบนี้ค่ะ
เหมือนในเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูรเลย
ถ้าอยากชมภายในปราสาท
เราต้องเดินขึ้นเขาไปค่ะ มองลงมาจากบนเขา
ก็จะได้วิวสวยๆ แบบนี้
เดินขึ้นมาใช้เวลาสักพักก็ถึงค่ะ
ถ้าไม่อยากเหนื่อยก็มีรถม้าให้บริการนะคะ
มาดูด้านในของปราสาท
หห้องต่างๆ นั้นสวยงามคล้ายฉากในละครมากกว่าที่จะเป็น
ที่อยู่อาศัยจริงๆ ของคนอีกค่ะ
ภายนอกยังงดงามขนาดนั้น
ภายในจะขนาดไหนมาดู
อะไรมันจะทองอร่าม
มะรางมะเรืองขนาดน้านนนน
มีแต่ภาพวาดทั้งบนผนังและเพดาน
บอกเล่าเรื่องราวในสมัยนั้นไว้อย่างสวยงาม
ห้องบรรทม
ห้องทรงงาน
ห้องรับประทานอาหาร
ซึ่งภายนอกปราสาทก็จะอยู่ท่ามกลางพันธุ์ไม้นานาพันธุ์
เที่ยวปราสาทจนจุใจแล้ว
ก็ได้เวลากินขาหมูเยอรมัน
ร้านตรงทางก่อนขึ้นปราสาทค่ะ
ร้านนี้อร่อยมาก มันบดคือแบบละลายในปาก
ส่วนขาหมูก็ขาใหญ่มาก
ใหญ่พอๆ กับขาเนยเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
สำหรับเยอรมัน
ก็มีเพียงเท่านี้นะคะ
สำหรับใครที่อยากดูบทความย้อนหลัง
เข้าไปดูได้นะคะ ในหมวดเนยเที่ยวเทศค่า
มีหลายประเทศเลยที่ลงไว้แล้ว
และก็มีอีกหลายประเทศที่ยังไม่ได้เขียน
ยังไงรอติดตามน้าา