สวัสดีค่า...
วันนี้เนยจะมาเล่าถึงประสบการณ์
ตอนที่เนยได้มีโอกาสไปอินเดียนะคะ
บอกเพื่อนๆ ไว้ก่อนเลยนะว่า...
เนยไปแสวงบุญนะคะ ดังนั้นจะไม่มีภาพสวยๆ
หรือสถานที่ท่องเที่ยวงามๆ ตึกรามบ้านช่องไฮโซ
ของคนในเมืองหลวงของอินเดียนะคะ
แต่เนยจะพาไปชม
ความจริงของอินเดีย
ในเมืองห่างไกลจากความเจริญ
อย่าหาว่าเนยพูดแรงนะคะ เพื่อนๆ อ่านให้จบ
แล้วเพื่อนๆ จะรู้ว่าเนยไม่ได้พูดเกินจริงเลยค่ะ
............................................
ทริปนี้ นุ่งขาวห่มขาวตลอดทั้งทริปนะคะ
เนยไปได้เพียง 2 วัน
เพราะฉะนั้น อาจจะไม่ได้มีสถานที่มากมายอะไร
แต่อยากจะให้เพื่อนๆ ที่ไม่เคยไป
ได้มองอีกมุมหนึ่งที่เราอาจจะยังไม่เคยได้สัมผัสค่ะ
![]() |
บรรยากาศสนามบิน |
เนยไปพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน
เป็นผู้ร่วมทริป 2 วันในอินเดียนี้
ไปพร้อมกับหลวงพี่ค่ะ
เรียกได้ว่าต้องสำรวมทั้งกาย วาจา ใจ มากๆ
อยู่ในชุดขาวจะมาวี้ดว้ายกระตู้หู้ว ไม่ได้!!
..............................................
นี่คือบรรยากาศหน้าโรงแรมที่เนยพัก
เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดของย่านนั้น
ในเมือง GAYA
เพียงบริษัททัวร์มาลงหน้าโรงแรม
ก็จะมีคนเหล่านี้ มายืน มานั่งรอ เพื่อขอเงิน
เป็นภาพแรกที่รู้สึกตกใจมาก
เพราะบ้านเราขอทานจะนั่งเป็นที่
ตามที่ต่างๆ พร้อมอุปกรณ์ใส่เงิน
แต่ที่นี่คือขอทานเคลื่อนที่ได้
และเค้าจะรอ จะคอย แม้กระทั่งเดินตามคุณ
แล้วถ้าสังเกตุดีๆ
จะเห็นว่าเค้าใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ
ไม่มีรองเท้า เสื้อผ้าขาดหลุดรุ่ย
เนื้อตัวสกปรกมอมแมม ผมเผ้ายุ่งเหยิง
ผู้คนที่เป็นขอทานจะมีทุกช่วงอายุ
ไม่เว้นแม้เด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา
..............................................
สถานที่แรกที่เนยไป
คือ สถานที่อาบน้ำชาวฮินดู
เป็นที่อาบน้ำของคนวรรณะต่างๆ
เป็นที่อาบน้ำของคนวรรณะต่างๆ
ทางเดินเข้า ก็จะพบเหล่าขอทานมานั่งแบบนี้

ขอทานที่นี่ เค้าไม่ได้มานั่งขอนะคะ
แต่เค้าอยู่อาศัยกันที่นี่เลย เหมือนคนไร้บ้าน
คือมีที่นอน ผ้าห่ม ก็พอแล้ว
ได้ยินมาว่า ถ้าหน้าหนาว
คนเหล่านี้ก็จะมานอนกองอยู่รวมกัน
เพื่อให้มันอุ่น
มีคนบอกว่าหน้าหนาวที่นี่
มองไกลๆ คล้ายกองขยะทับถม
เพราะมีแต่เหล่าจัณฑาลมากองรวมกัน
..................................................
นี่คือที่อาบน้ำของคนหลายชั้นวรรณนะ
ผู้คนมากมายจึงมารวมตัวกันที่นี่



มองลงไปด้านล่าง
นี่คือแหล่งน้ำที่พวกเขาลงไปอาบกัน
เพราะมีความเชื่อว่านี่คือน้ำศักดิ์สิทธิ์
น้ำที่ช่วยรักษาโรคภัย น้ำที่เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
สังเกตน้ำดีๆ
น้ำขุ่นมาก ไม่ใช่น้ำใสๆ นะคะ
คนนึงอาบน้ำล้างตัว ล้างคราบสกปรก
คนนึงก็เอาน้ำนั้นมาดื่ม มากิน มาแปรงฟัน

มีคนบอกว่าหน้าหนาวที่นี่
มองไกลๆ คล้ายกองขยะทับถม
เพราะมีแต่เหล่าจัณฑาลมากองรวมกัน
..................................................
นี่คือที่อาบน้ำของคนหลายชั้นวรรณนะ
ผู้คนมากมายจึงมารวมตัวกันที่นี่



มองลงไปด้านล่าง
นี่คือแหล่งน้ำที่พวกเขาลงไปอาบกัน
เพราะมีความเชื่อว่านี่คือน้ำศักดิ์สิทธิ์
น้ำที่ช่วยรักษาโรคภัย น้ำที่เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
สังเกตน้ำดีๆ
น้ำขุ่นมาก ไม่ใช่น้ำใสๆ นะคะ
คนนึงอาบน้ำล้างตัว ล้างคราบสกปรก
คนนึงก็เอาน้ำนั้นมาดื่ม มากิน มาแปรงฟัน

สถานที่อาบที่นี่ จะแบ่งเป็นชั้นๆ ตามวรรณะ
คนที่อยู่วรรณะต่ำสุด จะอาบน้ำชั้นล่างสุด
คือเป็นน้ำที่ไหลจากการอาบ การใช้
ของคนวรรณะสูงกว่านั่นเอง
และทุกครั้งที่คุณเดินผ่านใครก็ตาม
คุณจะเจอกับภาพนี้
ภาพที่เด็กๆ อุ้มลูก อุ้มน้อง ขอเงิน
อยากแนะนำให้คนที่ไปเยือน
แลกเงินเป็นแบงค์ 10 รูปีไว้นะคะ
เอาไว้ให้คนเหล่านี้ตามกำลังค่ะ
คนอินเดียถือเรื่องชั้นวรรณะมากนะคะ
คนวรรณะต่ำกว่า จะไม่สามารถขึ้นไปอาบน้ำ
ในชั้นที่สูงกว่าวรรณะของตนได้
ถ้าแอบขึ้นไป จะโดนคนเฝ้าที่ประตูลงโทษ
โดยการเฆี่ยนตีค่ะ
หากใครเกิดมาเป็นชนชั้นจัณฑาล หรือ ขอทานแล้ว
อาชีพเดียวที่พวกเขาจะทำได้ คือ ขอทาน
ดังนั้นหากเกิดมาเป็นขอทาน
แสดงว่าพ่อแม่ก็คือขอทานนั่นเอง
......................................
สถานที่ต่อไป เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่
และเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วโลก
ที่นับถือศาสนาพุทธ
นั่นก็คือ "พุทธคยา"
สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ และ ปรินิพานของพระพุทธเจ้า
ที่นี่เป็นต้นกำเนิดของศาสนาพุทธนั่นเอง
ที่เห็นเด่นเป็นสง่านั่นคือ "เจดีย์พุทธคยา"
จะมีผู้คนหลั่งไหลจากทั่วสารทิศ จากทุกมุมโลก
มารวมตัวกันที่นี่
ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย จีน ญี่ปุ่น
ทิเบต หรือชาติอื่นๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนา
เราจะได้เห็นการสวดมนต์ ที่แตกต่างกันออกไป
การกราบ ภาษาสวดมนต์ ที่ไม่คุ้นหู
จริงๆ การเข้ามาในสถานที่แห่งนี้
จะมียามตรวจไม่ให้เรานำมือถือเข้ามา
แต่นี่แอบเอาเข้ามาค่ะ
.........................................
สถานที่ต่อมา
คือ "ยอดเขาคิชกูฏ เมืองราชคฤห์"
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเราจะไปยอดเขา
ดังนั้นทริปนี้เราต้องเดินค่ะ เดินขึ้นเขาค่ะ
เอาเป็นว่า เดินบนทางค่อนข้างลาดชัน
ถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัวค่ะ
ทางก็จะเป็นเหมือนขั้นบันไดแบบนี้
(ภาพนี้เกือบสมบูรณ์แบบละ ถ้าไม่มีอาบัง)
เมื่อมาถึงยอดเขาเราก็จะได้บรรยากาศแบบนี้
ที่นี่เป็นสถานที่สำคัญ
ที่พระโมคคัลลานะ และ พระสารีบุตร
ขึ้นมาบำเพ็ญเพียร นั่งสมาธิค่ะ
เป็นที่ๆ สงบ
เหมาะกับการนั่งสมาธิจริงๆ ค่ะ
เมื่อเรามาถึงยอดเขา
ที่นี่เรียกว่า "พระคันธกุฏี"
หรือเรียกง่ายๆ ก็คือ กุฏิของพระพุทธเจ้านั่นเอง
แล้วเราก็นั่งสมาธิสวดมนต์กันที่นี่ค่ะ
หน้าแบบกำลังซึมซับบรรยากาศเต็มที่
อิ่มบุญกันเลยทีเดียว

นี่คือลักษณะการกราบไหว้ของชาวทิเบต
คือจะเอาทั้งตัวแนบไปกับพื้นเลยค่ะ
..........................................
สถานที่ต่อมาที่เราไปกันคือ
"วัดเวฬุวัน กรุงราชคฤห์"
ที่นี่มีความสำคัญคือ
เป็นที่ๆ พระภิกษุ 2,500 รูป
มาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมาย
มาถึงที่แล้วก็มาปฏิบัติธรรม
ฟังเทศน์ ฟังธรรมกันค่ะ
ปกติเนยเป็นคนคล้ำนะคะ
แต่พอมาถ่ายคู่กับน้องชาวอินเดีย
ดูขาวไปเลยค่ะ
ปล. น้องคนนี้น่ารักมาก เดินตามตลอดเลย
..............................................
จบจากทริปทางธรรม เราก็มาดูทางโลกบ้าง
บรรยากาศรถเมล์ ที่มีคนล้น
จนต้องขึ้นไปนั่งกันบนหลังคารถ
บรรยากาศข้างทาง ผู้คนเดินขวักไขว่
บรรยากาศร้านค้า
ร้านอาหาร จะเป็นประมาณนี้
(เนยไม่กล้าซื้ออะไรกินเลย
นี่คือบ้าน ที่อยู่อาศัยของคนส่วนใหญ่ที่นี่
จะเป็นประมาณนี้
คือเป็นบ้านดิน
คนที่นี่นิยมเลี้ยงแพะ และวัว
มองเข้าไปในบ้าน จะมีคอกวัวอยู่
รถส่วนตัวของคนที่นี่
น้อยนักที่จะเห็นมอเตอไซค์
ส่วนใหญ่จะเป็นจักรยาน หรือไม่ก็รถสามล้อ
แต่ที่เยอะที่สุด จะเป็นสองขาของคนนี่แหละ
บรรยากาศในตลาด

บรรยากาศร้านซ่อมเสื้อผ้า ร้านซ่อมรองเท้า
...........................................
เป็นยังไงกันบ้างคะ
การพาเที่ยวชมอินเดียของเนย
อยากให้เพื่อนๆ ที่ได้เข้ามาอ่าน
ได้แง่คิดอะไรดีๆ เหมือนที่เนยได้นะคะ
ก่อนไป เนยเคยเครียดกับชีวิตมากมาย
คิดว่าปัญหาของตัวเองน่ะใหญ่
แต่พอไปเจอแบบนี้ เนยปลงกับชีวิต
และคิดว่าตัวเนยเองโชคดีแค่ไหน
ที่มีเท่าทุกวันนี้
เพราะโลกนี้ยังมีคนที่ลำบาก
และต้องการโอกาสมากมายกว่าเราเยอะ
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามกันนะคะ
เจอกันใหม่ บทความหน้าค่า